การเจริญภาวนานั้น เป็นการสร้างบุญบารมีที่สูงที่สุดและยิ่งใหญ่ที่สุดในพระพุทธสาสนา จัดว่าเป็นแก่นแท้และสูงกว่าฝ่ายศีลมากนัก การเจริญภาวนานั้นมี ๒ อย่างคือ (๑) สมถภาวนา (การทำสมาธิ) และ (๒) วิปัสสนาภาวนา (การเจริญปัญญา) สมาธิคือการตั้งมั่นให้อยู่ในอารมณ์เดียว ไม่ฟุ้งซ่าน และหากผู้นั่งสมาธิมีกำลังและอยุ่ในสภาพที่นุ่มนวล ควรแก่การเจริญวิปัสสนาต่อไปได้อารมณ์ต่อไปได้อามรมณ์ของวิปัสสนา แตกต่างไปจากอารมณ์ของสมาธิ วิปัสสนาเป็นจิตที่คิดและใคร่ครวญหาเหตุและผลในสภาวะธรรมทั้งหลาย และการวิปัสนานั้นเพื่อให้จิตพิจารณาจนรู้แจ้งเห็นจริงว่า อันสภาวธรรมทั้งหลายอันได้แก่ขันฌ์ ๕ นั้นล้วนแต่มีอาการเป็นพระไตรลักษณ์ คือ เป็นอนิจจัง ทุกขังและอนัตตา ..
** ผู้ประพฤติปฎิบัติธรรมะ เท่านั้นที่พ้นจากทุกข์ได้ **
อยากรวย ให้พากันทำทาน
อยากสวย ให้พากันรักษาศีล
อยากดี ให้พากันเจิญภาวนา
ข้า ฯ จะมีเกินใช้ แต่ไม่ใช้เกินมี
ชีวิตอายุสั้นต้องรีบทำความดี
(ทำบุญ) ตั้งแต่วันนี้
พรุ่งนี้อาจไม่มีโอกาสได้ทำ
จงพิจารณาด้วยเหตุผลอย่างมงาย