พระบรมราโชวาท รัชกาลที่ ๙

พระบรมราโชวาทพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสฉลองสิริราชสมบัติครบ ๖๐ ปี ๑.ขอบคุณข้าวทุกเม็ด น้ำทุกหยด อาหารทุกานอย่างจริงใจ ๒.อย่าสวดมนต์เพื่อขอสิ่งใด นอกจาก “ปัญญา” และความกล้าหาญ ๓. “เพื่อนใหม่” คือ ของขวัญที่ให้กับตัวเอง ส่วน “เพื่อนเก่า” คือ อัญมณีที่นับวันจะเพิ่มค่า ๔. อ่านหนังสือ “ธรรมะ” ปีละเล่ม ๕. ปฏิบัติต่อคนอื่น เช่นเดียว กับที่ต้องการให้ผู้อื่น ปฏิบัติต่อเรา ๖. พูดคำว่า “ขอบคุณ” ให้มาก ๆ ๗. รักษาความลับให้เป็น ๘. ประเมินคุณค่าของการให้ “อภัย” ให้สูง ๙. ฟังให้มากแล้วจะได้คู่สนทนาที่ดี ๑๐. ยอมรับความผิดพลาดของตัวเอง หากมีใครตำหนิ และรู้แก่ใจว่าเป็นจริง ๑๑. หากล้มลง จงอย่ากลัวกับการลุกขึ้นใหม่ ๑๒. เมื่อเผชิญหน้ากับงานหนักให้คิดเสมอว่า เป็นไปไม่ได้ที่จะล้มเหลว ๑๓. อย่า ถกเถียงธุรกิจ ภายในลิฟท์ ๑๔. ใช้บัตรเครดิตเพื่อความสะดวก อย่าใช้เพื่อก่อหนี้สิน ๑๕. อย่าหยิ่งที่จะกล่าวคำว่า “ขอโทษ” ๑๖. อย่าอายที่จะบอกใครว่า “ไม่รู้” ๑๗. ระยะทางนับพันกิโลเมตร แน่นอนมันไม่ราบรื่นตลอดทาง ๑๘. ไม่มีใครเกิดมาแล้ววิ่งได้ จึงควรทำสิ่งต่าง ๆ อย่างค่อยเป็นค่อยไป ๑๙. การประหยัดเป็นบ่อเกิดแห่งความร่ำรวย เป็นหนทางแห่งความไม่ประมาท ๒๐. คนไม่รักเงิน คือคนไม่รักชีวิต ไม่รักอนาคต ๒๑. ยามทะเลาะกัน ผู้ที่เงียบก่อน คือ ผู้ที่มีการอบรมสั่งสอนดี ๒๒. ชีวิตนี้ฉันไม่เคยได้ทำงานเลยสักวัน ทุกวัน เป็นวันที่สนุกหมด ๒๓. จงใช้จุดแข็ง แต่อย่าเอาชนะจุดอ่อน ๒๔. เป็นหน้าที่ของเราที่จะพูดให้คนอื่นเข้าใจ ไม่ใช่หน้าที่ของคนอื่นที่จะทำความเข้าใจ ในสิ่งที่เราพูด ๒๕. เหรียญเดียวมีสองหน้า “ความสำเร็จ” กับ “ความล้มเหลว” ๒๖. อย่าตามใจตัวเอง เรื่องยุ่ง ๆ ที่เกิดขึ้นล้วนตามใจตนเองทั้งสิ้น ๒๗. ฟันร่วงเพราะมันแข็ง ส่วนลิ้นยังอยู่เพราะมันอ่อน ๒๘. อย่าดึงต้นกล้าให้โตไว ( อย่าใจร้อน ) ๒๙. ระลึกถึงความตายวันละ ๓ ครั้ง ชีวิตจะมีสุข มีอภัย มีให้ ๓๐. ถ้าติดกระดุมเม็ดแรกผิด เม็ดต่อ ๆ ไป ก็จะผิดหมด ๓๑. ทุกชิ้นงานจะต้องกำหนด วันเวลา แล้วเสร็จ ๓๒. จงเป็นน้ำครึ่งแก้วตลอดชีวิต เพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมได้ตลอด ๓๓. เดือนและดาวที่อยู่สูง อยากได้ต้องปีน “บันไดสูง” ๓๔. มนุษย์ทุกคนมีชิ้นงานมากมายในชีวิต จงทำชิ้นงานที่สำคัญที่สุดก่อนเสมอ ๓๕. หนังสือเป็นศูนย์รวมปัญญาของโลก จงอ่านหนังสือ เดือนละเล่ม ๓๖. ระเบียบวินัย คือ คุณสมบัติที่สำคัญในการดำเนินชีวิต

การงานคือการปฏิบัติธรรม

การงานคือการปฏิบัติธรรมของท่านพุทธทาสภิกขุ ชุดธรรมะฝึกใจ

สืบสานปณิธานพุทธทาส ๑๐๐ ปีชาตกาล ก็คือการปฏิบัติธรรมไปพร้อม ๆ กับการทำงาน กล่าวคือ ไม่ว่าเราจะทำหน้าที่อะไรก็ตาม ถ้าเป็นหน้าที่ ที่สุจริต ถูกต้องชอบธรรมแล้ว ถือว่า เป็นการปฏิบัติธรรมทั้งนั้น การงานคือการปฏิบัติธรรมนี้ ท่านพุทธทาสกล่าวว่า เป็นทางลัดที่จะก้าวไปสู่ธรรมะชั้นสูง คือ ได้ทั้งประโยชน์ตน ประโยชน์ผู้อื่น และได้ธรรมะสูงสุดไปในตัวเสร็จ ทุกคนมีโอกาสปฏิบัติธรรมได้ ไม่ว่าจะเป็นบุคคลที่นั่งหลับตา ภาวนาอยู่คนเดียว หรือกำลังทำงานอยู่ เพียงแต่ว่าจิตของบุคคลนั้น กำลังปฏิบัติธรรมอยู่หรือไม่ ........ ก. เราทำงานเพื่อให้ร่างกายแข็งแรง ข. ต้องเพื่อเสียสละความเห็นแก่ตัว ค. เพื่อต่อสู้กับกิเลส หรือสอบไล่ตัวเองในการต่อสู้กับกิเลสที่ละเอียดยิ่งขึ้นไป

การงานคือชีวิต ชีวิตคือการงาน เพราะฉะนั้น การงานก็คือความสุข ซึ่งเป็นผลสุดท้ายของการปฏิบัติธรรม ฉะนั้นจึงว่า ไม่ต้องไปหางานที่ไหน หรือว่าไปทำอะไรที่ไหน มันเป็นอยู่แล้วในชีวิต นี่เรียกว่าการงานตามความหมายของคำว่า "การงาน" ชีวิตตามธรรมชาติแท้ ๆ ที่มันมีความเจ็บความไข้นี้ มันก็เป็นการปฏิบัติธรรม เป็นโอกาสของการปฏบัติธรรมที่แท้จริง ยิ่งกว่าที่จะไปนั่งหลับหูหลับตาภาวนาที่นั่นที่นี่ แล้วก็ไม่รู้ว่าทำไปทำไม......

Price : ราคา ๓๕ บาท

Present By BlackGypSyGirL

ธรรมะ ๔ เกลอ

ร้านหนังสือชบาแดง ร้านหนังสือออนไลน์ เปิดบริการแล้ว ตั้งแต่วันที่ ๕ มิถุนายน ๒๕๕๑

นำเสนอหนังสือแนวปรัชญาและศาสนา ซึ่งเป็นแง่คิดที่ดี ที่สามารถนำมาใช้ได้ในชีวิตประจำวัน เพราะอ่านเข้าใจง่าย และสนุกเมื่อค้นพบทางออกของปัญหาจากแนวคิดที่ท่านพุทธทาสได้ให้คำสอนไว้ ..

และคำสอนเหล่านี้ใช้ได้กับทุกยุคทุกสมัย และทุกวัย ปัจจุบันมีทั้งสิ้น ๕๑ ปก

วันนี้ขอเสนอเนื้อหาโดยย่อจากเรื่องหนึ่งของ ๑ ปก ที่เข้าใจได้ง่าย และปฏิบัติตามได้ง่าย

" ธรรมะ ๔ เกลอ " สติ ปัญญา สัมปัชชัญญะ สมาธิ ..........

การนำเอาธรรมะ ๔ ข้อ สติ ปัญญา สัมปัชชัญญะ และสมาธิ มาอธิบายให้เห็นความสำคัญและประโยชน์ ในการนำเอาธรรมะไปใช้ในแง่มุมต่าง ๆ มากมาย โดยท่านพุทธทาสชี้ให้เห็นว่า การมีธรรมะ ๔ เกลอ ก็เหมือนกับมีเพื่อนที่ประเสริฐที่สุด ถ คน คอยช่วยเหลือให้สำเร็จประโยชน์ตามที่ปราถนาทุก ๆ อย่างเสมือนหนึ่งว่ามีพระพุทธเจ้ามาเป็นกัลยาณมิตร เข้ามาในรูปของธรรมะ ๔ เกลอ แล้วช่วยให้รอดพ้นจากความทุกข์ทั้งปวง

ธรรมะ ๔ เกลอ ควบคุมจิตใจ ไม่ให้ปรุงแต่งไปจนเกิดทุกข์ มันก็จะมีชีวิตที่เย็น มีความหมายเป็นนิพพาน อยู่ทุก ๆ อิริยาบท เกลอ ในความหมายก็คือ ผู้ที่มีประโยนช์คอยช่วยเหลือทุกหน ทุกแห่ง ทุกสถานที่ ทุกเวลา ในเมื่อความจำเป็นหรือความต้องการ หรือความลำบากยากแค้นอะไรเกิดขึ้นมาก็ได้ผู้ที่ว่าเป็นมิตร เป็นสหาย เป็นเพื่อน เป็นเกลอนี่แหละช่วย มันจึงต้องมีเพื่อนที่เป็นเกลอยิ่งไปกว่านั้น คือ ช่วยได้ในทางจิตใจ ช่วยได้ลึกซึ้ง อย่างที่เพื่อนมนุษย์ด้วยกันช่วยไม่ได้ แต่ธรรมะหรือพระธรรมนั้นช่วยได้ ... จะมีธรรมะเป็นเกลอก็ต้องมีธรรมะอยู่กับเนื้อกับตัว กับชีวิตจิตใจ มันจะป้องกันได้จากภัยอันตรายรอบด้าน มันจะแก้ไขสิ่งที่ไม่พึ่งปราถนาที่มีอยู่แล้วก็ได้ มันจะคุ้มครองรักษาให้ยังคงอยู่ก็ได้

มีธรรมะ ๔ เกลอ ก็เหมือนกับมีเพื่อนประเสริฐวิเศษ ๔ คน คอยพิทักษ์รักษา คุ้มครอง ป้องกัน สนับสนุน

ช่วยเหลือร่วมมือ จะทำอะไรสติมาก่อน ระลึกไว้ว่า มันเป็นเรื่องอะไร มีปัญหาอย่างไร ควรทำอย่างไร ระลึกกันมาให้มันทั่วถึง นี่มันจึงจะทำให้ถูกจุดหมายได้ แล้วก็ระลึกถึงในที่นี้ ก็ระลึกถึงปัญญาความรู้ว่า มันมีเรื่องของมันอย่างไรเอาปัญญามาเผชิญหน้า กับเหตุการณ์นั้น ๆ มันก็ถืออาวุธคุมเชิงอยู่ แล้วก็มีสมาธิ เพิ่มกำลังให้แก่การตัด ตัดปัญหา ตัดกิเลส ...

ขอให้ สนใจที่จะมีธรรมะกันให้ดี ๆ ควรจะระลึกนึกถึงข้อความที่พรพุทธเจ้าตรัสว่า ผู้ใดเห็นเราผู้นั้นเห็นธรรมะ ผู้ใดเห็นธรรมะ ผู้นั้นเห็นเรา คือ หมายความว่า ผู้ใดที่มีธรรมะ ผุ้นั้นก็มีเรา ผู้ใดมีเรา ผู้นั้นมีธรรมะ เพราะธรรมะที่แท้จริงนั้นแหละคือ พระพุทธเจ้าพระองค์จริง ... ได้ใกล้ชิดพระพุทธเจ้าโดยธรรมะ

Price : ๒๕ บาท

Present By BlackGypSyGirL