พระบรมราโชวาท รัชกาลที่ ๙

พระบรมราโชวาทพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสฉลองสิริราชสมบัติครบ ๖๐ ปี ๑.ขอบคุณข้าวทุกเม็ด น้ำทุกหยด อาหารทุกานอย่างจริงใจ ๒.อย่าสวดมนต์เพื่อขอสิ่งใด นอกจาก “ปัญญา” และความกล้าหาญ ๓. “เพื่อนใหม่” คือ ของขวัญที่ให้กับตัวเอง ส่วน “เพื่อนเก่า” คือ อัญมณีที่นับวันจะเพิ่มค่า ๔. อ่านหนังสือ “ธรรมะ” ปีละเล่ม ๕. ปฏิบัติต่อคนอื่น เช่นเดียว กับที่ต้องการให้ผู้อื่น ปฏิบัติต่อเรา ๖. พูดคำว่า “ขอบคุณ” ให้มาก ๆ ๗. รักษาความลับให้เป็น ๘. ประเมินคุณค่าของการให้ “อภัย” ให้สูง ๙. ฟังให้มากแล้วจะได้คู่สนทนาที่ดี ๑๐. ยอมรับความผิดพลาดของตัวเอง หากมีใครตำหนิ และรู้แก่ใจว่าเป็นจริง ๑๑. หากล้มลง จงอย่ากลัวกับการลุกขึ้นใหม่ ๑๒. เมื่อเผชิญหน้ากับงานหนักให้คิดเสมอว่า เป็นไปไม่ได้ที่จะล้มเหลว ๑๓. อย่า ถกเถียงธุรกิจ ภายในลิฟท์ ๑๔. ใช้บัตรเครดิตเพื่อความสะดวก อย่าใช้เพื่อก่อหนี้สิน ๑๕. อย่าหยิ่งที่จะกล่าวคำว่า “ขอโทษ” ๑๖. อย่าอายที่จะบอกใครว่า “ไม่รู้” ๑๗. ระยะทางนับพันกิโลเมตร แน่นอนมันไม่ราบรื่นตลอดทาง ๑๘. ไม่มีใครเกิดมาแล้ววิ่งได้ จึงควรทำสิ่งต่าง ๆ อย่างค่อยเป็นค่อยไป ๑๙. การประหยัดเป็นบ่อเกิดแห่งความร่ำรวย เป็นหนทางแห่งความไม่ประมาท ๒๐. คนไม่รักเงิน คือคนไม่รักชีวิต ไม่รักอนาคต ๒๑. ยามทะเลาะกัน ผู้ที่เงียบก่อน คือ ผู้ที่มีการอบรมสั่งสอนดี ๒๒. ชีวิตนี้ฉันไม่เคยได้ทำงานเลยสักวัน ทุกวัน เป็นวันที่สนุกหมด ๒๓. จงใช้จุดแข็ง แต่อย่าเอาชนะจุดอ่อน ๒๔. เป็นหน้าที่ของเราที่จะพูดให้คนอื่นเข้าใจ ไม่ใช่หน้าที่ของคนอื่นที่จะทำความเข้าใจ ในสิ่งที่เราพูด ๒๕. เหรียญเดียวมีสองหน้า “ความสำเร็จ” กับ “ความล้มเหลว” ๒๖. อย่าตามใจตัวเอง เรื่องยุ่ง ๆ ที่เกิดขึ้นล้วนตามใจตนเองทั้งสิ้น ๒๗. ฟันร่วงเพราะมันแข็ง ส่วนลิ้นยังอยู่เพราะมันอ่อน ๒๘. อย่าดึงต้นกล้าให้โตไว ( อย่าใจร้อน ) ๒๙. ระลึกถึงความตายวันละ ๓ ครั้ง ชีวิตจะมีสุข มีอภัย มีให้ ๓๐. ถ้าติดกระดุมเม็ดแรกผิด เม็ดต่อ ๆ ไป ก็จะผิดหมด ๓๑. ทุกชิ้นงานจะต้องกำหนด วันเวลา แล้วเสร็จ ๓๒. จงเป็นน้ำครึ่งแก้วตลอดชีวิต เพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมได้ตลอด ๓๓. เดือนและดาวที่อยู่สูง อยากได้ต้องปีน “บันไดสูง” ๓๔. มนุษย์ทุกคนมีชิ้นงานมากมายในชีวิต จงทำชิ้นงานที่สำคัญที่สุดก่อนเสมอ ๓๕. หนังสือเป็นศูนย์รวมปัญญาของโลก จงอ่านหนังสือ เดือนละเล่ม ๓๖. ระเบียบวินัย คือ คุณสมบัติที่สำคัญในการดำเนินชีวิต

การงานคือการปฏิบัติธรรม

การงานคือการปฏิบัติธรรมของท่านพุทธทาสภิกขุ ชุดธรรมะฝึกใจ

สืบสานปณิธานพุทธทาส ๑๐๐ ปีชาตกาล ก็คือการปฏิบัติธรรมไปพร้อม ๆ กับการทำงาน กล่าวคือ ไม่ว่าเราจะทำหน้าที่อะไรก็ตาม ถ้าเป็นหน้าที่ ที่สุจริต ถูกต้องชอบธรรมแล้ว ถือว่า เป็นการปฏิบัติธรรมทั้งนั้น การงานคือการปฏิบัติธรรมนี้ ท่านพุทธทาสกล่าวว่า เป็นทางลัดที่จะก้าวไปสู่ธรรมะชั้นสูง คือ ได้ทั้งประโยชน์ตน ประโยชน์ผู้อื่น และได้ธรรมะสูงสุดไปในตัวเสร็จ ทุกคนมีโอกาสปฏิบัติธรรมได้ ไม่ว่าจะเป็นบุคคลที่นั่งหลับตา ภาวนาอยู่คนเดียว หรือกำลังทำงานอยู่ เพียงแต่ว่าจิตของบุคคลนั้น กำลังปฏิบัติธรรมอยู่หรือไม่ ........ ก. เราทำงานเพื่อให้ร่างกายแข็งแรง ข. ต้องเพื่อเสียสละความเห็นแก่ตัว ค. เพื่อต่อสู้กับกิเลส หรือสอบไล่ตัวเองในการต่อสู้กับกิเลสที่ละเอียดยิ่งขึ้นไป

การงานคือชีวิต ชีวิตคือการงาน เพราะฉะนั้น การงานก็คือความสุข ซึ่งเป็นผลสุดท้ายของการปฏิบัติธรรม ฉะนั้นจึงว่า ไม่ต้องไปหางานที่ไหน หรือว่าไปทำอะไรที่ไหน มันเป็นอยู่แล้วในชีวิต นี่เรียกว่าการงานตามความหมายของคำว่า "การงาน" ชีวิตตามธรรมชาติแท้ ๆ ที่มันมีความเจ็บความไข้นี้ มันก็เป็นการปฏิบัติธรรม เป็นโอกาสของการปฏบัติธรรมที่แท้จริง ยิ่งกว่าที่จะไปนั่งหลับหูหลับตาภาวนาที่นั่นที่นี่ แล้วก็ไม่รู้ว่าทำไปทำไม......

Price : ราคา ๓๕ บาท

Present By BlackGypSyGirL

ธรรมะ ๔ เกลอ

ร้านหนังสือชบาแดง ร้านหนังสือออนไลน์ เปิดบริการแล้ว ตั้งแต่วันที่ ๕ มิถุนายน ๒๕๕๑

นำเสนอหนังสือแนวปรัชญาและศาสนา ซึ่งเป็นแง่คิดที่ดี ที่สามารถนำมาใช้ได้ในชีวิตประจำวัน เพราะอ่านเข้าใจง่าย และสนุกเมื่อค้นพบทางออกของปัญหาจากแนวคิดที่ท่านพุทธทาสได้ให้คำสอนไว้ ..

และคำสอนเหล่านี้ใช้ได้กับทุกยุคทุกสมัย และทุกวัย ปัจจุบันมีทั้งสิ้น ๕๑ ปก

วันนี้ขอเสนอเนื้อหาโดยย่อจากเรื่องหนึ่งของ ๑ ปก ที่เข้าใจได้ง่าย และปฏิบัติตามได้ง่าย

" ธรรมะ ๔ เกลอ " สติ ปัญญา สัมปัชชัญญะ สมาธิ ..........

การนำเอาธรรมะ ๔ ข้อ สติ ปัญญา สัมปัชชัญญะ และสมาธิ มาอธิบายให้เห็นความสำคัญและประโยชน์ ในการนำเอาธรรมะไปใช้ในแง่มุมต่าง ๆ มากมาย โดยท่านพุทธทาสชี้ให้เห็นว่า การมีธรรมะ ๔ เกลอ ก็เหมือนกับมีเพื่อนที่ประเสริฐที่สุด ถ คน คอยช่วยเหลือให้สำเร็จประโยชน์ตามที่ปราถนาทุก ๆ อย่างเสมือนหนึ่งว่ามีพระพุทธเจ้ามาเป็นกัลยาณมิตร เข้ามาในรูปของธรรมะ ๔ เกลอ แล้วช่วยให้รอดพ้นจากความทุกข์ทั้งปวง

ธรรมะ ๔ เกลอ ควบคุมจิตใจ ไม่ให้ปรุงแต่งไปจนเกิดทุกข์ มันก็จะมีชีวิตที่เย็น มีความหมายเป็นนิพพาน อยู่ทุก ๆ อิริยาบท เกลอ ในความหมายก็คือ ผู้ที่มีประโยนช์คอยช่วยเหลือทุกหน ทุกแห่ง ทุกสถานที่ ทุกเวลา ในเมื่อความจำเป็นหรือความต้องการ หรือความลำบากยากแค้นอะไรเกิดขึ้นมาก็ได้ผู้ที่ว่าเป็นมิตร เป็นสหาย เป็นเพื่อน เป็นเกลอนี่แหละช่วย มันจึงต้องมีเพื่อนที่เป็นเกลอยิ่งไปกว่านั้น คือ ช่วยได้ในทางจิตใจ ช่วยได้ลึกซึ้ง อย่างที่เพื่อนมนุษย์ด้วยกันช่วยไม่ได้ แต่ธรรมะหรือพระธรรมนั้นช่วยได้ ... จะมีธรรมะเป็นเกลอก็ต้องมีธรรมะอยู่กับเนื้อกับตัว กับชีวิตจิตใจ มันจะป้องกันได้จากภัยอันตรายรอบด้าน มันจะแก้ไขสิ่งที่ไม่พึ่งปราถนาที่มีอยู่แล้วก็ได้ มันจะคุ้มครองรักษาให้ยังคงอยู่ก็ได้

มีธรรมะ ๔ เกลอ ก็เหมือนกับมีเพื่อนประเสริฐวิเศษ ๔ คน คอยพิทักษ์รักษา คุ้มครอง ป้องกัน สนับสนุน

ช่วยเหลือร่วมมือ จะทำอะไรสติมาก่อน ระลึกไว้ว่า มันเป็นเรื่องอะไร มีปัญหาอย่างไร ควรทำอย่างไร ระลึกกันมาให้มันทั่วถึง นี่มันจึงจะทำให้ถูกจุดหมายได้ แล้วก็ระลึกถึงในที่นี้ ก็ระลึกถึงปัญญาความรู้ว่า มันมีเรื่องของมันอย่างไรเอาปัญญามาเผชิญหน้า กับเหตุการณ์นั้น ๆ มันก็ถืออาวุธคุมเชิงอยู่ แล้วก็มีสมาธิ เพิ่มกำลังให้แก่การตัด ตัดปัญหา ตัดกิเลส ...

ขอให้ สนใจที่จะมีธรรมะกันให้ดี ๆ ควรจะระลึกนึกถึงข้อความที่พรพุทธเจ้าตรัสว่า ผู้ใดเห็นเราผู้นั้นเห็นธรรมะ ผู้ใดเห็นธรรมะ ผู้นั้นเห็นเรา คือ หมายความว่า ผู้ใดที่มีธรรมะ ผุ้นั้นก็มีเรา ผู้ใดมีเรา ผู้นั้นมีธรรมะ เพราะธรรมะที่แท้จริงนั้นแหละคือ พระพุทธเจ้าพระองค์จริง ... ได้ใกล้ชิดพระพุทธเจ้าโดยธรรมะ

Price : ๒๕ บาท

Present By BlackGypSyGirL

ทำไมต้องล้างสารพิษ Why must wash the toxin ?

Why must wash the toxin? ทำไมต้องล้างสารพิษ ก่อนหน้านี้มนุษย์ได้เผชิญกับสารพิษต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น ยาฆ่าแมลง สารเคมี มลพิษทางอากาศ ฝุ่นละออง ยา โลหะหนักและรังสี มากมายเท่าผู้คนทั่วโลกทุกวันนี้ การปฏิบัติตามโปรแกรมล้างพิษเป็นขั้นแรกของการลดอันตรายต่อร่างกายจากสารพิษเหล่านี้ การล้างสารพิษสำคัญอย่างไร เพื่อเพิ่มพลังและความกระฉับกระเฉงให้กับชีวิต สิ่งที่คุกคามสุขภาพ การล้างสารพิษเป็นการทำลายสารพิษเพื่อขับออกจากร่างกาย โดยความช่วยเหลือของอวัยวะที่มีหน้าที่กำจัดสารพิษ ( ผิวหนัง ลำไส้ ตับ ไต ปอด ) ก่อนหน้านี้ขบวนการดังกล่าวไม่มีความสำคัญ แต่ปัจจุบันพิษจากสิ่งแวดล้อมมีมากขึ้น จนกระทบต่อขบวนการ ทางชีวภาพ หลักที่จำเป็น ต่อสุขภาพ การเจริญเติบโต และการดำรงพันธุ์ วิถีชีวิตทำให้คนเราเครียดมากขึ้น รับประทานอาหารที่มีน้ำตาล ไขมัน อาหารปรุงแต่งปริมาณสูง แต่ได้รับสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกายต่ำลง วิถีชีวิตดังกล่าวยับยั้ง 2 ขั้นตอนของกระบวนการล้างพิษ ในตับ อันได้แก่ การทำลายสารพิษ และการขับสารพิษ ที่ถูกทำลายแล้วออกไป ธรรมชาติบำบัด เชื่อว่า : ปัญหาด้านฮอร์โมน ความเหนื่อยกล้าม ปวดกล้ามเนื้อ ปวดศีรษะ การติดเชื้อไวรัส หรือเชื้ออื่น ระบบย่อยอาหารแปรปรวน หรือ ภูมิแพ้ และแม้แต่มะเร็งหลายชนิดที่เพิ่มขึ้น เป็นสิ่งบ่งชี้ได้ว่ามีสารพิษในร่างกาย มากเกินไป สารพิษหลายอย่างทำให้ร่างกายอ่อนแอ นอกจากนี้การใช้ยาปฏิชีวนะมากเกินไป หรือไม่เหมาะสมทำให้ร่างกาย ทำลายแบคทีเรียดื้อยา และเชื้อไวรัส ก่อโรคได้ ลดลง ร่างกายของคุณจึงไม่แข็งแรงและติดเชื้อได้ง่าย ผลของสารพิษที่มีต่อร่างกาย ท่านสามารถสังเกตตนเองได้ดังนี้ ผลต่อระบบภูมิคุ้มกัน : สารพิษที่เพิ่มมากขึ้นมีผลต่อการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน ซึ่งมีหน้าที่ซึ่งมีหน้าที่ปกป้องร่างกายจากการรุกรานโดยไวรัสและแบคทีเรียก่อโรค สิ่งแรกที่ร่างกายตอบสนองเพื่อบ่งบอกว่า ระบบภูมิคุ้มกัน กับระบบย่อยอาหาร เริ่มอ่อนแอ คือ อาการภูมิแพ้ และการแพ้อาหาร แพทย์อาจสั่งยาต้าน ฮิสทามีนสำหรับภูมิแพ้ เพื่อลดอาการ ในระยะเฉียบพลัน แต่ไม่ได้แก้ ที่สาเหตุ ซึ่งเกิดจากมีสารพิษมากเกินไป ในร่างกาย การย่อยอาหารกับสารพิษ : สารพิษจะทวีความรุนแรงมากขึ้นหากระบบย่อยอาหาร ไม่ปกติ ลำไส้ใหญ่เฉื่อยชา ไม่สามารถกำจัดสารพิษผ่านระบบย่อยอาหารและผิวหนัง ตลอดจนเมื่อตับและไตทำหน้าที่ลดลง จนส่งผลการทำงานของร่างกายตามปกติ เมื่อระบบย่อยอาหารทำงานไม่ปกติ แบคทีเรียและยีสต์ ในลำไส้กลุ่มหนึ่งจะเพิ่มจำนวนขึ้นแล้วย่อยอาหาร ซึ่งหลงเหลือ จากการย่อย ได้สารประกอบที่มีพิษสามารถดูดซึม กลับเข้าสู่ร่างกายกระบวนการนี้เรียกว่า การเกิด พิษในร่างกาย หากแบคทีเรียและยีสต์ชนิดนี้ มีจำนวนมากกว่าแบคทีเรียที่มีประโยชน์ สารพิษจะถูกสร้างเพิ่มขึ้น ความเครียดทำให้สารพาเพิ่มขึ้น สารพิษเพิ่มขึ้นได้หากเกิดการเครียดอย่างต่อเนื่อง การล้างพิษในร่างกายเปลี่ยนเป็นการเพิ่มพิษ อนุมูลอิสระจะเพิ่มมากขึ้น ฮอร์โมนที่หลั่งออกมาเมื่อมีความเคียดจะสะสมในเลือด และเป็นสาเหตุหลักของปัญหาสุขภาพ ที่อาจพัฒนาเป็นโรคร้ายแรง เช่น โรคหัวใจและมะเร็งได้ในที่สุด

DetOx Program -^^- โปรแกรมสุขภาพ

โปรแกรมสุขภาพ_Detox Program 4Healthy การล้างสารพิษ บทความเรื่องการล้างสารพิษนี้ คัดลอกมาจากหนังสือ “คู่มือการดูแลสุขภาพ ด้วยการล้างสารพิษ Detox Handbook ”

บทความเรื่องนี้มีทั้งหมด 4 ส่วน ..........

หากทำได้ครบทั้ง 4 ส่วนท่านจะพบกับความเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในร่างกาย

ซึ่งท่านจะรู้สึกถึงความสดชื่น กระฉับกระเฉง รู้สึกถึงความแข็งแรงของทางร่างกาย

รวมถึงจิตใจที่เบิกบานแจ่มใส สงบเยือกเย็น ท่านอาจสงสัยว่าทำไมการล้างสารพิษในครั้งนี้

จึงส่งผลทั้งทางด้านร่างกายและทางด้านจิตใจเพราะท่านอาจจะเคยได้ยินแต่

การล้างสารพิษในร่างกายทำให้ร่างกายแข็งแรงขึ้น สุขภาพร่างกายดีขึ้น ที่มีผลทางด้านจิตใจที่ด้วยนั้น ก็เพราะว่า บทความที่ 3 และ 4 ของบทความทั้ง 4 บท

ในการนำเสนอเรื่องการล้างสารพิษในครั้งนี้ เป็นบทความที่นำเสนอโปรแกรมในการล้างใจ

และโปรแกรมในการล้างจิตวิญญาณ ซึ่งครบถ้วนตามคำที่ว่า

ความแข็งแรงที่สมบรูณ์เกิดจากจิตใจภายใน และร่างกายภายนอกประกอบกัน

บทความแรก = ทำไมต้องล้างสารพิษ บทความที่สอง = ล้างกาย บทความที่สาม = ล้างใจ บทความที่สี่ = ล้างจิตวิญญาณ

ในปัจจุบัน เราเผชิญกับสารพิษจากภายนอก เช่น มลพิษทางอากาศผ่านการหายใจและภายในร่างกายที่เกิดจากขบวนการเผาผลาญพลังงานอยู่ทุกวัน หากระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายแข็งแรง และอวัยวะที่ทำหน้าที่กำจัดสารพิษ

เช่น ผิวหนัง ไต และลำไส้ ทำงานตามปกติ ร่างกายจะกำจัดสารพิษนี้ได้อย่างปลอดภัย แต่ด้วยเหตุผลนานัปการ

ร่างกายอาจจะกำจัดสารพิษดังกล่าวได้ไม่ดีเพียงพอ หรือสารพิษมีมากเกินความสามารถในการกำจัด จึงเกิด ”พิษ”

ในร่างกายขึ้น ผู้เชี่ยวชาญด้านบำบัดเชื่อว่า หากปล่อยทิ้งไว้จะมีการทำลายร่างกายอยู่เงียบ ๆ ตลอดเวลาจนอวัยวะ ภายในร่างกายอ่อนแอลงและเกิดโรคต่าง ๆ มากมาย รวมถึงข้ออักเสบและกลุ่มอาการลำไส้ไวผิดปกติ ..

ขั้นตอนการกำจัดสารพิษในครั้งนี้ จัดทำขึ้นแบบค่อยเป็นค่อยไป

และยังทำงานสอดคล้องกับการกำจัดสารพิษของอวัยวะในร่างกาย

อีกทั้งไม่สนับสนุนให้งดผลไม้ตอนสิ้นสุดโปรแกรมก่อนกลับไปใช้ชีวิตปกติ **

การล้างพิษเพียงไม่กี่วันแล้วกลับไปใช้ชีวิตที่ไม่เป็นมิตรต่อสุขภาพ

เพราะสารพิษจะลดลงระหว่างอยู่ในโปรแกรมเท่านั้น

เป็นไปไม่ได้เลยกับการขับสารพิษซึ่งสะสมในร่างกาย

เป็นเวลานานออกไปด้วยระยะเวลาอันสั้น จึงอยากชวนคุณให้หันมาดูแลสุขภาพ

โดยร่วมเดินทางระยะยาวกับโปรแกรมนี้ เพื่อสุขภาพที่ดีในช่วงเวลาที่เหลืออยู่

โปรแกรมล้างพิษนี้ถูกออกแบบมาเพื่อตอบสนองต่อความรู้สึกอ่อนล้า

และความเครียดของผู้คนที่ทวีขึ้นในปัจจุบัน โดยมีผลข้างเคียงและเกิดความเครียดน้อย

ทำให้รู้สึกสนุกมากกว่าต้องทนปฏิบัติ ทุกวันนี้ชีวิตวุ่นวายมาก

ผู้คนจึงไม่สนใจคำแนะนำเกี่ยวกับอาหารที่เข้มงวด

ดังนั้นการปรับเปลี่ยนอย่างค่อยเป็นค่อยไปและยืดหยุ่น

จึงเป็นวิธีที่ดีที่สุดในทางปฏิบัติ ความสัมพันธ์ระหว่างร่างกายและใจ จุดสมดุลระหว่าง และกายใจ เป็นพื้นฐานการดูแลตนเองทุกโปรแกรม

บทความทั้งหมดนี้มีแนวทางการบำบัด กาย ใจ และจิตวิญญาณอย่างหลากหลาย

และจำช่วยให้คุณที่อ่านได้เข้าใจความสัมพันธ์ ของความแข็งแรงทางด้านร่างกาย จิตใจ และจิตวิญญาณ โดยอารมณ์กับจิตวิญญาณ มีผลต่อทัศนะคติเกี่ยวกับอาหารและพลังงานในร่างกาย

คุณจะได้เรียนรู้และพัฒนา “พลังภายใน” จากการปฏิบัติ เพื่อให้เป็นพลังสำคัญต่อการเปลี่ยนแปลงชีวิต ไม่ได้ตั้งใจให้บทความเหล่านี้ มาทดแทนการรักษาแผนปัจจุบัน คุณควรอยู่ในการดุแลของแพทย์

โดยแจ้งเรื่องการล้างสารพิษให้แพทย์ผู้ดูแลทราบ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนเริ่มโปรแกรม หากคุณไม่แน่ใจว่าสุขภาพแข็งแรงพอ หรือ เมื่อมีอาการผิดปกติในร่างกาย คำแนะนำ : การอดอาหารและน้ำไม่ใช่สิ่งดี แต่หากอยู่ในโปรแกรมล้างพิษที่มีการอดอาหารควรดื่มน้ำผลไม้เป็นเวลา 7 วัน สตรีมีครรภ์ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ เพื่อให้มั่นใจว่าได้รับสารอาหารตามความต้องการอย่างเพียงพอในช่วงลดอาหาร หลีกเลี่ยงการใช้สมุนไพรและ ทำสปาในช่วงตั้งครรภ์ โปแกรมนี้ทำให้น้ำหนักลดลงบ้างเนื่องจากการล้างสารพิษ ฤดูใบไม้ร่วงเหมาะต่อการทำความสะอาดลำไส้ใหญ่ ฤดูใบไม้ผลิจึงปฏิบัติตามโปรแกรมระดับอื่น ๆ

ในโปรแกรมทั้งหมดข้อควรระวัง คุณ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนปฏิบัติตามโปรแกรมล้างพิษ ในกรณีต่อไปนี้ สตรีมีครรภ์หรือให้นมบุตร ต้องปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ยาสมุนไพร และห้ามทำสปาที่ใช้น้ำมันหอมระเหย หรือกดจุด ร่างกายอ่อนแอช่วงก่อนหรือหลังผ่าตัดใหญ่ทันที ป่วยเป็นโรคเรื้อรังทั้งทางร่างกายและจิตใจ อายุ ต่ำกว่า 18 ปีหรือมากกว่า 60 ปี ความตั้งใจที่จะล้างสารพิษ : รางวัลที่ได้คือ สุขภาพที่ดี และคุณควรทำความเข้าใจโปรแกรมนี้ในมุมมองที่เป็นบวก มองดูตัวเองด้วยความรักและนับถือตนเอง นั่นแหละจะเป็นโอกาสที่คุณจะรู้สึกเบิกบาน และสดใสเหมือนดอกไม้แรกแย้ม หรือประดุจ เทพธิดา ที่มีแสงสว่างในตนเอง อย่ายึดติดอยู่กบรายละเอียด เพราะ การล้างพิษควรสนุกและตื่นเต้น .............

ประโยชน์จากการล้างสารพิษ ที่ประสบความสำเร็จ

การปฏิบัติตามขั้นตอนของโปรแกรมล้างพิษอย่างครบถ้วน ก่อให้เกิดผลดีมากมาย อย่างเหลือเชื่อ อาทิ

· เพิ่มพลังงาน * หลับสบายขึ้น * ลดท้องอืด ท้องเฟ้อ และการคลั่งของน้ำ * ลดอาการปวด --- * เพิ่มความจำ และทำให้จิตใจเบิกบาน * ทำให้กระปรี้กระเปร่า * รู้สึกสงบ --

THE EMPRESS ไพ่พระราชินี ดาวศุกร์

ไพ่พระราชินี ในความหมายโดยภาพรวมของไพ่ หมายถึง ความอุดมสมบูรณ์ สตรีที่มีความอบอุ่น อ่อนหวาน ผู้ที่ทำให้เกิดความกลมกลืน .. การรอคอยเฝ้ารอสัญญาอย่างใจจดใจจ่อ ... ความหมายของไพ่ที่คุณหยิบได้ อาจแตกต่างกันไปตามตำแหน่งที่ไพ่วางอยู่ .. ดังนั้นหากท่านต้องการรู้คำตอบจากความหมายของไพ่อย่างชัดเจน ก็ต้องเข้าใจตำแหน่งที่ไพ่นั้น ๆ วางอยู่ด้วยเช่นกัน .... หากท่านจับได้ไพ่ใบนี้ในตำแหน่งเจ้าชะตา ไม่ว่าจะหยิบไพ่ในครั้งนั้น ๆ กี่ใบก็ตาม แต่ท่านหยิบได้ไพ่ใบนี้ในตำแหน่งที่ ๑.

ท่านเป็นคนมีความคิดสร้างสรรค์และยอดเยี่ยม ในด้านศิลปะ เป็นผู้มีพรสวรรค์ทางด้านการเกษตร อาหารและของสวยงาม ชีวิตของท่านค่อนข้างเรียบง่าย มีนิสัยเอื้ออาทร ช่างเอาใจใส่ดูแล มีน้ำใจ ... หากท่านเป็นผู้หญิงและจับได้ไพ่ใบนี้ ท่านจะเป็นผู้หญิงที่เป็นแม่บ้านแม่เรือนที่มีรอยยิ้ม มีความสุข ... หากงานที่ท่านทำไพ่ใบนี้หมายถึงท่านจะได้รับประโยชน์จากงานที่สร้างสรรค์ มีความฉลาดและสติปัญญาที่ดี การแก้ไข ปัญหา การให้คำแนะนำช่วยเหลือจากผู้อื่น รวมถึงท่านเป็นผู้ที่มีลักษณะภายนอกที่น่าพึงใจ ใหลหลง มีความเป็นหฯงที่เด่นชัด ....... แล้วหากท่านเป็นผู้ชายล่ะ ผู้ชายซึ่งหยิบได้ไพ่ใบนี้เป็นใบแรก นั่นหมายถึง ท่านเป็นผู้ชายที่มีความละเอียดถี่ถ้วนและละเอียดละออเหมือนผู้หญิง จิตใจอ่อนโยน ชอบงานที่ผู้หญิงทำ สนใจในงานที่ผู้หญิงสนใจ ชอบเรื่องสวย ๆ งาม ๆ มีความเป็นผู้ชายที่น่าประทับใจ ..... แต่อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าผู้ชายหรือผู้หญิงที่หยิบได้ไพ่ใบนี้ในตำแหน่งเจ้าชะตา ไพ่สามารถตอบท่านได้เลยว่า ท่านจะเป็นพ่อหรือแม่ที่ดีของลูก และเมื่อไพ่ใบนี้ปรากฏขึ้นทำนายว่าเจ้าชะตาจะเป็นคนที่ร่ำรวยในอนาคต และหากถามถึงเหตุการร์ปัจจุบันนั่นหมายถึงการตั้งครรภ์ ... ลัลลา ^^

เมื่อใดก็ตามที่ไพ่ใบนี้ขึ้นในตำแหน่ง ที่ 2 จากการหยิบไพ่ทั้งสิ้น 10 ใบนั่นหมายถึงมีคนผู้มีลักษณะที่ดีมีจิตใจโอบอ้อมอารี จะมาช่วยชี้นำให้คำแนะนำท่านในทางที่ดี ไม่ว่าเรื่องอะไรก็ตามที่ท่านต้องการ ลักษณะเป็นผู้หญิงที่ใจดี พูดจาช้าเนิบนาบ ใจเย็น ดูอบอุ่น

หรือหากเป็นผู้ชายก็เป็นผู้ชายที่มีลักษณะนิ่ง เนิบนาบคล้าย ๆ ผู้หญิง ใจดีโอบอ้อมอารี หากท่านถามมาตรง ๆ ว่าคนที่ท่านถามถึงนี้เป็นคนดี หรือไม่ และท่านจะสามารถพึ่งพาคนๆ นี้ได้หรือไม่ ตอบได้เลยว่าได้แน่นอน ... ตกตำแหน่งที่ 2 นั่นหมายถึงคน ๆ นี้ค่อนข้างมีอิทธิพลในชีวิตท่านช่วงนี้แน่นอน แต่จะมีตลอดไปไหมต้องดูจากไพ่ที่ตกตำแหน่งอนาคตและเป็นไพ่ที่ต่อเนื่องจากไพ่ใบนี้ด้วยเช่นกัน .....

หากไพ่ตกตำแหน่งที่หรือ 3 หรือ 6 นั่นหมายถึง สิ่งดี ๆ คนดี ๆ งานดี ๆ ทางด้าน ศิลปกำลังจะมาถึงท่าน ไม่เกิน 1 - 3 เดือน หากไพ่ตกในตำแหน่งที่ 3 นั่นหมายถึงในไม่ช้านี่ล่ะไม่เกิน 1 เดือน 2 เดือน หากตกในตำแหน่งที่ 6 ก็คือไม่น่าเกิน 3 เดือนนี้ ...

** ตำแหน่งของไพ่มีอิทธิพลในด้านเวลานะคะ หากท่านต้องการเรียนรู้เรื่องไพ่ต้องเรียนรู้ในทางความหมาย และเรียนรู้ตำแหน่งเพื่อตอบท่านในด้านเวลาด้วยนะคะ **

หากท่านมาเปิดไพ่เพื่อถามว่าท่านเหมาะกับงานทางด้านไหนดี คำตอบก็คือด้านศิลปะ อาหาร ของสวยงาม หรืองานที่เกิดจากความคิดสร้างสรรค์ต่าง ๆ เรียนด้านไหนดีก็ด้านดังกล่าวนั่นแหละเหมาะและดีที่สุดสำหรับท่านแล้ว .....

ไพ่ใบนี้สามารถตอบคำถามแบบเสี่ยงทาย สำหรับท่านได้อีกคือ เรื่องใด ๆ คำถามใด ๆ ของท่านก็ตามที่เกิดขึ้นในใจท่าน และเมื่อท่านอธิฐานก่อนเปิดไพ่ว่าเรื่องนั้นดี จะสำเร็จหรือไม่ คำตอบก็คือ ได้ สำเร็จแน่นอน .....

ในความหมายที่เกี่ยวข้องกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ .. เมื่อไพ่ใบนี้เปิดขึ้นมานั่นหมายถึง

ท่านมีพระแม่ลักษมีคอยปกป้องคุ้มครองดูแล

ตั้งนะโม 3 จบก่อนทุกครั้ง

** คาถาบูชาพระแม่ลักษมี : โอมชยะศรี ลักษมีมาตรา 3 จบ **

วิธีสร้างบุญบารมี ตอนที่หก

การเจริญภาวนานั้น เป็นการสร้างบุญบารมีที่สูงที่สุดและยิ่งใหญ่ที่สุดในพระพุทธสาสนา จัดว่าเป็นแก่นแท้และสูงกว่าฝ่ายศีลมากนัก การเจริญภาวนานั้นมี ๒ อย่างคือ (๑) สมถภาวนา (การทำสมาธิ) และ (๒) วิปัสสนาภาวนา (การเจริญปัญญา) สมาธิคือการตั้งมั่นให้อยู่ในอารมณ์เดียว ไม่ฟุ้งซ่าน และหากผู้นั่งสมาธิมีกำลังและอยุ่ในสภาพที่นุ่มนวล ควรแก่การเจริญวิปัสสนาต่อไปได้อารมณ์ต่อไปได้อามรมณ์ของวิปัสสนา แตกต่างไปจากอารมณ์ของสมาธิ วิปัสสนาเป็นจิตที่คิดและใคร่ครวญหาเหตุและผลในสภาวะธรรมทั้งหลาย และการวิปัสนานั้นเพื่อให้จิตพิจารณาจนรู้แจ้งเห็นจริงว่า อันสภาวธรรมทั้งหลายอันได้แก่ขันฌ์ ๕ นั้นล้วนแต่มีอาการเป็นพระไตรลักษณ์ คือ เป็นอนิจจัง ทุกขังและอนัตตา ..

** ผู้ประพฤติปฎิบัติธรรมะ เท่านั้นที่พ้นจากทุกข์ได้ **

อยากรวย ให้พากันทำทาน

อยากสวย ให้พากันรักษาศีล

อยากดี ให้พากันเจิญภาวนา

ข้า ฯ จะมีเกินใช้ แต่ไม่ใช้เกินมี

ชีวิตอายุสั้นต้องรีบทำความดี

(ทำบุญ) ตั้งแต่วันนี้

พรุ่งนี้อาจไม่มีโอกาสได้ทำ

จงพิจารณาด้วยเหตุผลอย่างมงาย

วิธีสร้างบุญบารมี ตอนที่ห้า

การรักษาศีลเป็นการเพียรพยายามเพื่อระงับโทษทางกายและวาจา อันเป็นเพียงกิเลสหยาบมิให้กำเริบ และเป็นการบำเพ็ญบุญบารมีที่สูงขึ้นกว่าการให้ทาน ทั้งในการถือศีลด้วยกันเองก็ยังได้บุญมากและน้อยต่างกันไปตามลำดับ.. ดิฉันจะกล่าวถึงการรักษาศีลที่เป็นปกติในชีวิตประจำวัน ที่เป็นศีลขั้นพื้นฐานที่ควรจะนำมาใช้ในชีวิตประจำวันเพื่อให้เกิดความสุขและความดีในปัจจุบัน .. อานิสงฆ์ของการรักษาศีล ๕ (๑) ผู้ที่รักษาศีลข้อที่ ๑ ด้วยการที่ไม่ฆ่าสัตว์ตัดชีวิต ด้วยเศษของบุญที่รักษาศีลข้อนี้ เมื่อน้อมนำมาเกิดเป็นมนุษย์ก็จะทำให้มีพลานามัยแข็งแรง ปราศจากโรคภัย ไม่ขี้โรค อายุยืนยาว ไม่มีศัตรูเบียดเบียนให้ต้องบาดเจ็บ ไม่มีอุบัติเหตุต่าง ๆ ที่จะทำให้บาดเจ็บหรือสิ้นอายุเสียก่อนวัยอันสมควร (๒) ผู้ที่รักษาศีลข้อ ๒ ด้วยการไม่ถือเอาทรัพย์ของผู้อื่นที่เจ้าของมิได้เต็มใจให้ ด้วยเศษของบุญที่นำมาเกิดเป็นมนุษย์ ย่อมทำให้เกิดในตระกูลที่ร่ำรวย การทำมาหาเลี้ยงชีพในภายหน้ามักประสบช่องทางที่ดี ทำมาค้าขึ้นและมั่งมีทรัพย์ ทรัพย์สมบัติไม่วิบัติหายนะไปด้วยภัยต่าง ๆ เช่น อัคคีภัย วาตภัย โจรภัย ฯลฯ (๓) ผู้ที่รักษาศีลข้อ ๓ ด้วยการไม่ล่วงประเวณีในคู่ครอง หรือคนในปกครองของผู้อื่น ด้วยเศษบุญที่รักษาศีลข้อนี้ เมื่อมาเกิดเป็นมนุษย์ ก็จะประสบโชคดีในความรักมักพบรักที่แท้จริงจังและจริงใจ ไม่ต้องอกหัก อกโรย และอกเดาะ ครั้นเมื่อมีบุตรธิดาก็ว่านอนสอนง่าย ไม่ดื้อด้าน ไม่ถูกผู้อื่นหลอกลวงฉุดคร่าอนาจารไปทำให้เสียหาย บุตรธิดาย่อมเป็นอภิชาตบุตร ซึ่งจะนำเกียรติยศชื่อเสียงมาสู่วงศ์ตระกูล (๔) ผู้ที่รักษาศีลข้อ ๔ ด้วยการไม่กล่าวมุสา ด้วยเศษของบุญรักษาศีลข้อนี้ เมื่อนำมาเกิดเป็นมนุษย์ จะทำให้เป็นผู้ที่สุ้มเสียงไพเราะ พูดจามีน้ำมีนวลชวนฟัง มีเหตุผลชนิดที่เป็น "พุทธวาจา" มีโวหารปฏิภาณไหวพริบในการเจรจาจะเจรจาความสิ่งใดก็มีผู้เชื่อฟังและเชื่อถือ สามารถว่ากล่าวสั่งสอนบุตรธิดาและศิษย์ให้อยู่ในโอวาทได้ดี (๕) ผู้ที่รักษาศีลข้อ ๕ ด้วยการไม่ดื่มสุราเมรัยเครื่องหมักดองของมึนเมา ด้วยเศษของบุญที่รักษาข้อนี้เมื่อนำมาเกิดเป็นมนุษย์ย่อมทำให้เป็นผู้ที่มีสมอง ประสาท ปัญญา ความคิดแจ่มใส จะศึกษาเล่าเรียนสิ่งใดก็แตกฉานและทรงจำได้ง่าย ไม่หลงลืม ฟั่นเฟือนเลอะเลือน ไม่เสียสติวิกลจริต ไม่เป็นโรคสมอง โรคประสาท ไม่ปัญญาทราม ปัญญาอ่อนหรือปัญญานิ่ม อานิงส์ของศีล ๕ มีดังกล่าวข้างต้น สำหรับศีล ๘ ศีล ๑๐ และศีล ๒๒๗ ก็ย่อมมีอานิสงส์เพิ่มพูนมากยิ่ง ๆ ขึ้น ตามลำดับและประเภทของศีลที่รักษา แต่ศีลนั้นจะมีอานิสงส์เพียงใด ก็ยังเป็นแต่เพียงการบำเพ็ญบุญบารมีในชั้นกลาง ๆ ในพุทธศาสนาเท่านั้น เพราะเป็นเพียงระเบียบหรือกติกาที่จะรักษากายและวาจาให้สงบ ไม่ให้ก่อให้เกิดทุกข์โทษขึ้นทางกายและวาจาเท่านั้น ส่วนทางจิตใจนั้น ศีลยังไม่สามารถที่จะควบคุมหรือทำให้สะอาดบริสุทธิ์ได้ ฉะนั้น การรัษาศีลจึงยังได้บุญ น้อยกว่าการภาวนา เพราะการภาวนานั้นเป็นการรักษาจิต รักษาใจ และซักฟอกจิตให้เบาบางหรือจนหมดกิเลส คือ ความโลภ โกรธ หลง อันเป็นเครื่องร้อยรัดให้บรรดาสรรพสัตว์ทั้งหลายต้องเวียนว่ายตายเกิดอยู่ในสงสรวัฏ การภาวนาจึงเป็นการบำเพ็ญบุญบารมีสูงที่สุด ประเสริฐที่สุด ได้บุญมากที่สุด เป็นกรรม อันยิ่งใหญ่ เรียกว่า "มหัคตกรรม" อันเป็นมหัคคตกุศล ..

พลังแห่งลางสังหรณ์ พลังแห่งภูมิปัญญา The High Priestess

ความหมายโดยรวมของไพ่ใบนี้หมายถึง บุคคลที่มีจิตใจและความคิดซับซ้อน มีลักษณะเก็บงำความรู้สึก ลับลมคมใน ซ่อนเงื่อนปมบางอย่าง เพราะโดยรูปของไพ่บ่งบอกถึงหัวใจสำคัญของความลึกลับ เป็นตัวแทนของการปิดบัง บุคลิกภายนอกแสดงถึงความสดใส อำนาจ และการสนุกสนานรื่นรมย์ แต่ภายในอาจซึมเซา เศร้าหมอง ช่างคิด มีอารมณ์ไม่มั่นคง ประเภทเดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย ** สิ่งที่เป็นพรติดตัวมาคือความฉลาด ทันคน ที่เป็นประตูเปิดไปสู่การรับรู้ ทั้งนี้เป็นเพราะอิทธิพลของดวงจันทร์นั่นเอง ** ความหมายของไพ่คือ ความลับที่ปิดบังซ่อนเร้น จิตใตที่เอาแน่เอานอนไม่ได้ ความรู้สึกที่เกิดขึ้นในเวลาค่ำคืน และความรักที่ยังไม่เป็นที่ยอมรับของบุคคลอื่น ๆ **

ความหมายของผู้ที่หยิบได้ไพ่ใบนี้ในตำแหน่งเจ้าชะตา

หากท่านเป็นผู้หญิงและเปิดได้ไพ่ใบนี้ในตำแหน่งเจ้าชะตา ^^ ทำนายได้เลยว่ารูปร่างจะอ้อนแอ้นอรชร ใบหน้ามีดูมีเสน่ห์ อย่างล้ำลึก

หากท่านเป็นผู้ชายแล้วหยิบได้ไพ่ใบนี้ ท่านจะเป็นคนที่มีนิสัยร่าเริง สนุกสนาน แต่ขี้เหงา รูปร่างผอมสูง ชอบทำตัววุ่นวาย เจ้าเล่ห์แบบแยบคายซ่อนเร้น

ไพ่ราชินีพระจันทร์คือไพ่ที่มีความหมายแฝงเร้นเหมือนกับว่าเมื่อหน้าไพ่ใบนี้เปิดขึ้น ท่านจะได้รับพรสวรรค์ที่มีค่ายิ่งมาให้ แต่มันอาจจะลึกซึ้งจนทันไม่รู้สึกถึงสิ่งที่ราชินีพระจันทร์ให้มา เมื่อไพ่ใบนี้ปรากฏขึ้น ขณะนี้คุณเต็มไปด้วยพลังแห่งลางสังหรณ์ คุณอาจมีประสบการณ์เกี่ยวกับความฝันที่แอบซ่อนอยู่ในด้านหนึ่งของจิตใต้สำนึก ซึ่งเริ่มเปิดเผยมันออกมาต่อหน้าคุณ คุรอาจไม่สนใจและไม่เข้าใจ แต่ไพ่ใบนี้บอกให้คุณสนใจกับสิ่งเหล่านี้ให้มาก แม้ว่าแรกทีเดียวมันดูเหมือนไร้สาระไม่น่าเชื่อถือ แต่ก็เป็นสาระสำหรับคุณคนเดียว ซึ่งจะช่วยให้คุณเข้าใจตัวเองได้ดีขึ้น เหมือนมีทัศนะคติใหม่ ๆ ในการมองทะลุถึงธรรมชาติของความรัก และคนรอบข้าง คุณสามารถคาดเดาเรื่องต่าง ๆ ได้ถูกต้องแม่นยำ เรื่องราวต่าง ๆ ไม่จำเป็นต้องไปเสาะแสวงหาให้ใครเป็นผู้ตอบ ณ. วันนี้คำตอบก็คือคุณสามารถรับรู้ได้ด้วยลางสังหรณืของคุณเอง

หากจะให้ตอบในเรื่องการเงิน คุณจะได้รับเงินจากเพศตรงข้ามอย่างลับ ๆ แอบช่วยเหลือคุณอยู่อย่างลับ ๆ หรือแม้กระทั่งช่วยเหลือโดยทางอ้อม .. หากถามเรื่องกิจการงานที่ทำอยู่ก็หมายถึงว่าคุณจะได้รับความช่วยเหลืออุปถัมภ์จากเพศตรงข้ามแต่ลักษณะที่เข้ามาคือ เน้นในเรื่องชู้สาวเพราะคุณเป็นคนมีเสน่ห์มากมายมหาศาลนี้เอง .. แต่หากว่าคุณละเลือกลงมือทำงานชนิดใดประเภทไหนดี ตอบได้เลยว่าควรทำงานที่เกิดจากความคิดสร้างสรรค์ จินตนาการ งานศิลป์ที่มีตำนาน งานที่ชวนค้นหาและลึกลับ ซับซ้อน หรืออาจเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับอักษณศาสตร์ นักเขียนที่สร้างสรรค์ผลงานจากจิตนาการของตนเอง .. งานกิจการที่ทำตอนค่ำคืน เสียงเพลง .. แต่อะไรก็ตามที่ถามอยู่ ณ.ปัจจุบันนี้ มันถึงช่วงเวลาที่คุณควรเปิดเผยและทำความเข้าใจตัวเอง หรือคิดใคร่ครวญอย่างมีสมาธิ อย่างมีแนวทาง จะจุดประกายความคิดในเรื่องต่าง ๆ และจะสามารถทำให้ท่านรู้แจ้ง เพราะฉะนั้นต้องอดทนเปิดใจให้กว้าง แล้วท่านจะพบหนทางและคำตอบมากมาย ก่อนที่จะพบสิ่งต่าง ๆ ที่แท้จริง ไม่ว่าเรื่องงาน เรื่องความรัก ......

ในลักษณะความหมายของเทพ คือ พระแม่สุรัสวตี ท่านจะให้พรในเรื่องอักษรศาสตร์ ศิลปและเสียงเพลงหากท่านทำงานในด้านเหล่านี้ แต่ความสำเร็จจากพรที่ขอก็ย่อมเกิดจากความพยายามของผู้ขอด้วยเช่นกัน

^^ในลักษณะของไพ่เสี่ยงทาย 1 ใบสำหรับคำตอบในเรื่องที่ถามคือ 50/ 50 ได้เสียเท่ากัน^^

**คาถาบูชาพระแม่สุรัสวตี : โอมชยะศรีสุรัสวตีมา (๓ จบ) ท่านชอบสีขาว **

___ เสน่ห์ของความลึกลับ ปิดบัง หลบซ่อน รอการค้นพบ ความไม่เข้าใจตัวเองและปิดกั้น พลังแห่งลางสังหรณ์ และพิธีกรรม อาถรรพ์ และพลังแห่งภูมิปัญญา ___

วิธีสร้างบุญบารมี ตอนที่สี่

องค์ประกอบข้อ ๓. เนื้อนาบุญต้องบริสุทธิ์ คำว่า “เนื้อนาบุญ” ในที่นี้ได้แก่บุคคลผู้รับการทำทาน ของผู้ทำทานนั้นเอง นับว่าเป็นองค์ประกอบข้อที่สำคัญที่สุดแม้ว่าองค์ประกอบในการทำทานข้อที่ ๑ และ ๒ จะงามบริสุทธิ์ครบถ้วนดีแล้ว แต่หากผู้รับทานนั้นไม่เป็นผู้ที่มีเนื้อนาบุญบริสุทธิ์ เป็นเนื้อนาบุญที่เลว ทานที่ได้ไปก็ไม่ผลิตดอกออกผล เหมือนกับการหว่านเมล็ดข้าวเปลือกลงในพื้นนา ๑ กำมือ ข้าวนั้นจะเป็นพันธุ์ที่ดีพร้อมจะงอกงาม ( วัตถุทานที่บริสุทธิ์) และผู้หว่านคือกสิกรก็มีเจตนาจะหว่านเพื่อทำนาให้เกิดผลิดอกออกผลเป็นอาชีพ ( เจตนาบริสุทธิ์ ) แต่หากที่นานั้น เป็นที่ที่ไม่สม่ำเสมอกันเมล็ดข้าวที่หว่านลงไปก็งอกเงยไม่เสมอกัน โดยเมล็ดที่ไปตกในที่ดินดี ปุ๋ยดี มีน้ำอุดมดีก็จะงอกเงยมีผลิตผลที่สมบูรณ์ ส่วนเมล็ดที่ไปตกบนพื้นนาที่แห้งแล้ง มีแต่กรวดกับทรายและขาดน้ำ ก็จะแห้งเหี่ยวหรือเฉาตายไป หรือไม่งอกเงยเสียเลยการทำทานนั้น ผลิตผลที่ผู้ทำทานจะได้รับก็คือ "บุญ" หากผู้ที่รับการให้ทานไม่เป็นเนื้อนาที่ดีสำหรับการทำบุญแล้ว ผลของทานคือบุญก็จะได้เกิดขึ้น แม้จะเกิดก็ไม่สมบูณ์ เพราะแกร็นหรือแห้งเหี่ยวเฉาไปด้วยประการต่าง ๆ ฉะนั้น ในการทำทาน ตัวบุคคลผู้รับของที่เราให้ทานจึงเป็นเงื่อนไขที่สำคัญที่สุด เราผู้ทำทานจะได้บุญมากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับคนพวกนี้ คนที่รับการให้ทานนั้นหากเป็นผู้ที่มีศีลธรรมสูง ก็ย่อมเป็นเนื้อนาบุญที่ดี ทานที่เราได้ทำไปแล้วก็เกิดผลบุญมาก หากผู้รับการให้ทานเป็นผู้ที่ไม่มีศีลไม่มีธรรมผลของทานก็ไม่เกิดขึ้นคือได้บุญน้อย .. สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ตรัสเอาไว้ว่า แม้วัตถุทานจะบริสุทธิ์ดี เจตนาในการทำทานจะบริสุทธิ์ดี จะทำให้ทานนั้นมีผลมากหรือน้อย ย่อมขึ้นอยู่กับเนื้อนาบุญเป็นลำดับต่อไปนี้ คือ ๑. ทำทานแก่สัตว์เดรัจฉาน แม้จะมากถึง ๑๐๐ ครั้งก็ได้บุญน้อยกว่าให้ทานดังกล่าวแก่มนุษย์ แม้จะเป็นมนุษย์ที่ไม่มีศีล ไม่มีธรรมเลยก็ตาม ทั้งนี้สัตว์ย่อมมีบุญวาสนาบารมีน้อยกว่มนุษย์ และสัตว์ไม่ใช่เนื้อนาบุญที่ดี ๒. ให้ทานแก่มนุษย์ที่ไม่มีศีล ไม่มีธรรมวินัย แม้จะให้มากถึง ๑๐๐ ครั้งก็ยังได้บุญน้อยกว่าให้ทานดังกล่าวแก่ผู้ที่มีศีล ๕ แม้จะเพียงครั้งเดียวก็ตาม ๓. ให้ทานแก่ผู้ที่มีศีล ๕ แม้จะมากถึง ๑๐๐ ครั้งก็ยังได้บุญน้อยกว่าให้ทานดังกล่าวแก่ผู้ที่มีศีล ๘ แม้จะให้แต่เพียงครั้งเดียวก็ตาม ๔. ให้ทานแก่ผู้ที่มีศีล ๘ แม้จะมากถึง ๑๐๐ ครั้ง ก็ยังได้บุญน้อยกว่าถวายทานแก่ผู้ที่มีศีล ๑๐ คือสามเณรในพระพุทธศาสนาแม้จะได้ถวายทานดังกล่าวแต่เพียงครั้งเดียวก็ตาม ๕. ถวายทานแก่สามเณรซึ่งมีศีล ๑๐ แม้จะมากถึง ๑๐๐ ครั้งก็ยังได้บุญน้อยกว่าถวายทานดังกล่าวแก่พระสมมุติสงฆ์ ซึ่งมีศีลปาฏิโมกข์ สังวร ๒๒๗ ข้อ พระด้วยกันก็มีคุณธรรมแตกต่างกัน จึงเป็นเนื้อนาบุญที่ต่างกัน บุคคลที่บวชเข้ามาในพระพุทธศาสนามีศีลปาฏิโมกข์สังวร ๒๒๗ ข้อนั้น องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ายังไม่ตรัสเรียกว่าเป็น "พระ" แต่เป็นเพียงพระสมมติเท่านั้น เรียกว่า "สมมติสงฆ์" พระที่แท้จริงนั้น หมายถึงบุคคลที่บรรลุคุณธรรมตั้งแต่พระโสดาปัตติผลเป็นโสดาบันเป็นต้นไป ไม่ว่าท่านผุ้นั้นจะได้บวชหรือเป็นฆราวาสก็ตาม นับว่าเป็น "พระ" ทั้งสิ้นและพระด้วยกันก็มีคุณธรรมต่างกันหลายระดับชั้น และย่อมเป็นเนื้อนาบุญที่ต่างกัน .. ๖. ถวายทานแก่พระสมมุติสงฆ์ แม้จะมากถึง ๑๐๐ ครั้งก็ยังได้บุญน้อยกว่าการถวายทานแก่พระโสดาบัน แม้จะได้ถวายทานดังกล่าวแต่เพียงครั้งเดียวก็ตาม (ความจริงยังมีการแยกเป็นพระโสดาบันปัตติมรรคและพระโสดาปัตติผล ฯลฯ เป็นลำดับไปจนถึงพระอรหันต์ผล แต่ในที่นี้จะกล่าวแต่เพียงย่นย่อพอให้ได้ความเท่านั้น ๗. ถวายทานแก่พระโสดาบัน แม้จะมากถึง ๑๐๐ ครั้ง ก็ยังได้บุญน้อยกว่าการถวายทานดังกล่าวแก่พระสกิทาคามี แม้จะถวายทานดังกล่าวแต่เพียงครั้งเดียวก็ตาม ๘. ถวายทานแก่พระสกิทาคามี แม้จะมากถึง ๑๐๐ ครั้ง ก็ยังได้บุญน้อยกว่า การถวายทานดังกล่าวแก่พระอนาคามี แม้จะถวายทานดังกล่าวแต่เพียงครั้งเดียวก็ตาม ๙. ถวายทานแก่พระอนาคามี แม้จะมากถึง ๑๐๐ ครั้ง ก็ยังได้บุญน้อยกว่าการถวายทานดังกล่าวแก่พระอรหันต์ แม้จะถวายทานดังกล่าวแต่เพียงครั้งเดียวก็ตาม ๑๐. ถวายทานแก่พระอรหันต์ แม้จะมากถึง ๑๐๐ ครั้ง ก็ยังได้บุญน้อยกว่าการถวายทานแก่พระปัจเจกพุทธเจ้า แม้จะถวายทานดังกล่าวแต่เพียงครั้งเดียวก็ตาม ๑๑. ถวายทานแก่พระปัจเจกพุทธเจ้าแม้จะมากถึง ๑๐๐ ครั้งก็ยังได้บุญน้อยกว่าการ ถวายทานแด่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแม้จะถวายทานดังกล่าวแต่เพียงครั้งเดียวก็ตาม ๑๒. ถวายทานแด่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า แม้จะมากถึง ๑๐๐ ครั้ง ก็ยังได้บุญน้อยกว่าการถวายสังฆทานที่มีองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นประทาน แม้จะได้ถวายสังฆทานดังกล่าวแต่เพียงครั้งเดียวก็ตาม ๑๓. การถวายสังฆทานที่มีองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นประธาน แม้จะมากถึง ๑๐๐ ครั้ง ก็ยังได้บุญน้อยกว่า การถวาย วิหารทาน แม้จะได้กระทำแต่เพียงครั้งเดียวก็ตาม วิหารทาน ได้แก่ การสร้างหรือร่วมสร้างโบสถ์ วิหาร ศาลาการเปรียญ ศาลาโรงธรรม ศาลาท่าน้ำ ศาลาที่พักอาศัยคนเดินทาง อันเป็นสาธารณประโยชน์ที่ประชาชนได้ใช้ประโยชน์ร่วมกัน อนึ่ง การสร้างสิ่งที่เป็นสาธารณประโยชน์หรือสิ่งที่ประชาชนใช้ประโยชน์ร่วมกัน แม้จะไม่เกี่ยวเนื่องกับกิจในพระพุทธศาสนา เช่น โรงพยาบาล โรงเรียน บ่อน้ำ แท็งก์น้ำ ศาลาป้ายรถยนต์โดยสารประจำทาง สุสาน เมรุเผาศพ ก็ได้บุญมากในทำนองเดียวกัน ๑๔. การถวายวิหารทาน แม้จะมากถึง ๑๐๐ ครั้ง (๑๐๐ หลัง)ก็ยังได้บุญน้อยกว่าการให้ธรรมทาน แม้จะให้แต่เพียงครั้งเดียวก็ตามการให้ธรรมทาน ก็คือ การเทศน์ การสอนธรรมะแก่ผู้อื่นที่ยังไม่รู้ให้ได้รู้ ที่รู้อยู่แล้วให้รู้ยิ่ง ๆ ขึ้น ให้ได้เข้าใจในมรรค ผล นิพพาน ให้ผู้ที่เป็นมิจฉาทิฐิได้กลับใจเป้นสัมมาทิฐิ ชักจูงผู้คนให้เข้าปฏิบัติธรรมรวมตลอดถึงการพิมพ์การแจกหนังสือธรรมะ ๑๕. การให้ธรรมทาน แม้จะมากถึง ๑๐๐ ครั้งก็ยังได้บุญน้อยกว่าการให้ "อภัยทาน" แม้จะให้แต่เพียงครั้งเดียวก็ตามการให้อภัยทานก็คือการไม่ผูกโกรธ ไม่อาฆาตจองเวร ไม่พยาบาทคิดร้ายผู้อื่นแม้แต่ศัตรู ซึ่งได้บุญกุศลแรงและสูงมากในฝ่ายทาน เพราะเป็นการบำเพ็ญเพียงเพื่อสละ "โทสกิเลส" และเป็นการเจริญ "เมตตาพรหมวิหารธรรม" ซึ่งเมื่อเมตตาพรหมวิหารธรรมได้เกิดขึ้นแล้วเมื่อใด ก็ย่อมสละเลียได้ซึ่ง "พยาบาท" ผู้นั้นจึงจะสามารถให้อภัยทานได้ การให้อภัยทานจึงเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนและยากเย็นจึงจัดเป็นทานที่สูงกว่าการให้ทานทั้งปวง ***^^*** อย่างไรก็ดี การให้อภัยทานแม้จะมากเพียงใด แม้จะชนะการให้ทานอื่นๆทั้งมวล ผลบุญนั้นก็ยังอยู่ในระดับต่ำกว่า "ฝ่ายศีล"เพราะเป็นการบำเพ็ญบารมีคนละขั้นต่างกัน ***^^*** ๒. การรักษาศีล ศีลมีหลายระดับ คือ ศีล ๕ ศีล ๘ ศีล ๑๐ ศีล ๒๒๗ การรักษาศีลเป็นการเพียรพยายามเพื่อระงับโทษทางกายและวาจา อันเป็นเพียงกิเลสหยาบไม่ให้กำเริบขึ้น และเป็นการบำเพ็ญบุญบารมีที่สูงขึ้นกว่าการให้ทาน ทั้งในการถือศีลด้วยกันเองก็ยังได้บุญมากและน้อยต่างกันไปตามลำดับ ( ขอเพิ่มเติมในเรื่องศีลและภาวนา ฉบับสมบูรณ์ ในศุกร์หน้า 19/05/08 นะคะ )

วิธีสร้างบุญบารมี ตอนที่สาม

องค์ประกอบของการทำทาน 3 ประการ การทำทานได้แก่การสละทรัพย์สิ่งของสมบัติของตนที่มีอยู่ให้แก่ผู้อื่นโดยมุ่งหวังจะจุนเจือให้ผู้อื่นได้รับประโยชน์และความสุขด้วยความเมตตาจิตของตน ทานที่ได้ทำไปนั้น จะทำให้ผู้ทำทานได้บุญมากหรือน้อยเพียงใด ย่มสุดแล้วแต่องค์ประกอบ 3 ประการ หากถึงพร้อมด้วยองค์ประกอบ 3 ประการต่อไปนี้แล้วทานนั้นย่อมมีผลมาก ได้บุญบารมีมาก กล่าวคือ ๑ ." วัตถุทานต้องบริสุทธิ์ " วัตถุทานที่ให้ได้แก่สิ่งของทรัพย์สมบัติที่ตนได้สละให้เป็นทานนั้นเอง จะต้องเป็นของบริสุทธิ์ ที่จะเป็นของบริสุทธิ์ได้จะต้องเป็นสิ่งของที่ตนแสวงหา ได้มาด้วยความบริสุทธิ์ในการประกอบอาชีพ ไม่ใช่ของที่ได้มาโดยการเบียดเบียนผู้อื่น เช่น ได้มาโดยสุจริต ลักทรัพย์ ยักยอก ฉ้อโกง ปล้นทรัพย์ ชิงทรัพย์ ฯลฯ ตัวอย่าง ๑. ได้มาโดยการเบียดเบียนชีวิตเลือดเนื้อสัตว์ เช่น ฆ่าสัตว์ต่าง ๆ เป็นต้นว่า ปลา โค กระบือ สุกร โดยประสงค์จะนำเอาเนื้อของเขามาทำอาหารถวายพระเพื่อเอาบุญ ย่อมเป็นการสร้างบาปเอามาทำบุญ วัตถุทานคือเนื้อสัตว์นั้นเป็นของที่ไม่บริสุทธิ์ แม้ทำบุญให้ทานไป ก็ย่อมได้บุญน้อย จนเกือบไม่ได้อะไรเลย ทั้งอาจจะได้บาปเสียอีกหากว่าทำทานด้วยจิตที่เศร้าหมอง แต่การที่ได้เนื้อสัตว์มาโดยการซื้อหาจากผู้อื่นที่ฆ่าสัตว์นั้น โดยที่ตนมิได้มีส่วนร่วมรู้เห็นเป็นใจนั้นการฆ่าสัตว์ก็ดี เนื้อสัตว์นั้นตายเองก็ดี เนื้อสัตว์นั้นย่อมเป็นวัตถุทานที่บริสุทธิ์ เมื่อนำมาทำย่อมได้บุญมากหากถึงพร้อมด้วยองค์องค์ประกอบข้ออื่นๆ ด้วย ตัวอย่างที่ ๒. ลักทรัพย์ ยักยอก ฉ้อโกง ชิงทรัพย์ ปล้นทรัพย์ รวมตลอดถึงการทุจริตฉ้อราษฎร์บังหลวง อันเป็นการได้ทรัพย์มาในลักษณะไม่ชอบธรรม หรือโดยเจ้าของเดิมไม่เต็มใจให้ ทรัพย์นั้นย่อมเป็นของไม่บริสุทธิ์ เป็นของร้อน แม้จะผลิดอกออกผลมาเพิ่มเติม ดอกผลนั้นก็ย่อมเป็นของไม่บริสุทธิ์ ด้วยนำเอาไปกินไปใช้ย่อมเกิดโทษ เรียกว่า บริโภคโดยความเป็นหนี้ แม้จะนำเอาไปทำบุญ ให้ทาน สร้างโบสถ์วิหารก็ไม่ทำให้ได้บุญแต่อย่างใด ... ** วัตถุทานที่บริสุทธิ์เพราะการแสวงหาได้มาโดยชอบธรรมดังกล่าว ไม่ได้จำกัดว่าจะต้องเป็นของดีหรือเลว ไม่จำกัดว่าเป็นของมากหรือน้อย น้อยค่าหรือมีค่ามาก จะเป็นของดีหรือของเลว ประณีตมากหรือน้อยไม่สำคัญ ความสำคัญอยู่ที่เจตนาการให้ทานนั้นตามกำลังทรัพย์และกำลังศรัทธาที่ตนมีอยู่ ** ๒.เจตนาในการให้ทานต้องบริสุทธิ์ การให้ทานนั้น โดยจุดมุ่งหมายที่แท้จริงก็เพื่อเป็นการขจัดความโลภ ความตระหนี่เหนี่ยวแน่น ความหวงแหน หลงใหลในทรัพย์สมบัติของตน อันเป็นกิเลสหยาบ คือ โลภกิเลส และเพื่อเป็นการสงเคราะห์ผู้อื่นให้ได้รับความสุข ด้วยเมตตาธรรมของตนเอง อันเป็นบันไดก้าวแรกในการเจริญเมตตาพรหมวิหารธรรมในพรหมวิหาร ๔ ให้เกิดขึ้น ถ้าได้ให้ทานด้วยเจตนาดังกล่าวแล้ว เรียกว่าเจตนาในการทำทานบริสุทธิ์แต่เจตนาที่ว่าบริสุทธิ์นั้น ถ้าจะบริสุทธิ์จริงจะต้องสมบูรณ์พร้อมกัน 3 ระยะคือ .. (๑) ระยะก่อนที่จะให้ทาน ก่อนที่จะให้ทานก็มีจิตโสมนัสร่าเริงเบิกบานยินดีที่จะให้ทาน เพื่อสงเคราะห์ผู้อื่นให้ได้รับความสุขเพราะทรัพย์สิ่งของของตน (๒) ระยะที่กำลังลงมือให้ทาน ระยะที่กำลังลงมือทำทานอยู่นั้นเอง ก็ทำด้วยจิตโสมนัสร่าเริงยินดี และเบิกบานในทานที่ตนกำลังให้ผู้อื่น (๓) ระยะหลังจากที่ได้ให้ทานไปแล้ว ครั้นเมื่อได้ให้ทานไปแล้วเสร็จ หลังจากนั้นก็ดี นามมาก็ดี เมื่อหวนคิดถึงทานที่ตนได้กระทำไปแล้วครั้งใด ก็มีจิตโสมนัสร่าเริงเบิกบาน ยินดีในทานนั้น ๆ เจตนาบริสุทธิ์ในการทำทานนั้น อยู่ที่จิตใจโสมนัสร่าเริงเบิกบานยินดีในทานนั้นเป็นสำคัญ และเนื่องมาจากเมตตาจิตมุ่งสงเคราะห์ผู้อื่นให้พ้นความทุกข์

************************

วิธีสร้างบุญบารมี ตอนที่สอง

ดังที่ได้กล่าวมาแล้วว่า การทำบุญมี 3 วิธี คือ (1) การให้ทาน (ให้บุญน้อยที่สุด ) (2) การถือศีล (ให้ผลบุญมากกว่าทาน) (3) การเจริญภาวนาหรือการนั่งสมาธิ (ให้ผลบุญมากกว่าศีล) (ย่อ ๆ คือ ทาน ศีล ภาวนา) 1.การให้ทานเป็นข้าวของเล็ก ๆ น้อย ๆ 100 ครั้ง บุญยังน้อยกว่า การสร้างโบสถ์ วิหาร ศาลา ประโยชน์แก่คนจำนวนมาก เช่น โรงเรียน โรงพยาบาล เพียง 1 ครั้ง 2.การให้ทานเป็นโบสถ์ วิหาร ศาลา โรงเรียน โรงพยาบาล 100 ครั้ง บุญยังน้อยกว่า การให้ การสอนธรรมะเป็นทาน การแจกหนังสือธรรมะ (หรือเรียกว่า "ธรรมทาน")เพียง 1 ครั้ง 3.การให้ธรรมทาน 100 ครั้ง บุญยังน้อยกว่า "การให้อภัยทาน" เพียง 1 ครั้ง ** การให้อภัยทานเป็นบุญสูงสุดเหนือการให้ทานทั้งปวง แต่ก็ยัง ส่งผลบุญน้อยกว่าการถือศีล** 4.การให้อภัยทาน 100 ครั้ง บุญยังน้อยกว่า การถือศีล 5 เพียง 1 ครั้ง (ศีล 5 = ไม่ฆ่าสัตว์ ไม่ลักทรัพย์ ไม่ประพฤติผิดในกาม ไม่พูดปด ไม่ดื่มเหล้า ) 5.การถือศีล 5 = 100 ครั้ง บุญยังน้อยกว่า การนั่งสมาธิภาวนา แม้เพียงไก่กระพือปีก 1 ครั้ง หรือช้างกระดิกหู 1 ครั้ง (บางคนทั้งชีวิต ไม่เคยมีโอกาสได้นั่งสมาธิเลย) ** แต่เกิดมาในชีวิตต้องทำให้ครบทั้ง 3 อย่าง คือ ทาน - ศีล - ภาวนา **

• เพราะถ้าเราได้แต่นั่งภาวนา เพื่อให้ได้บุญสูงสุด แต่ไม่ยอมทำทาน เกิดไปชาติหน้า เราจะเกิดเป็นคนมีปัญญา แต่ยากจนเพราะไม่เคยให้ทาน
• ถ้าเราได้แต่ให้ทาน แต่ไม่ถือศีลและไม่เจริญสมาธิภาวนา เกิดไปชาติหน้า เราจะเป็นคนรวยที่ไร้ปัญญา ในไม่ช้าทรัพย์สินก็หมดไป

** การทำบุญกับผู้ที่มีศีลบริสุทธิ์ เช่นพระมหากษัตริย์ พระอรหันต์ บิดา มารดา หรือบุคคลที่มีศีลมากจะให้อานิสงส์มากกว่าการทำบุญกับผู้ที่มีศีลน้อย

**พ่อแม่ เปรียบเสมือนพระอรหันต์ เด็กที่ทำบุญและกตัญญูต่อพ่อแม่ จะตกน้ำไม่ไหล ตกไฟไม่ไหม้ คิดเงินก้ไหลนอง คิดทองก็ทองไหลมา

( สรุปย่อมาจากหนังสือของสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปรินายกสมเด็จพระสังฆราชองค์ปัจจุบัน)

วิธีสร้างบุญบารมี

มาเข้าเรื่องของวิธีการทำบุญ สร้างบารมีกันต่อนะคะ ถ้าจะกล่าวในวันนี้ วันเดียวอาจจะยังไม่จบ ยังไงก็ขอให้ติดตามอ่านกัน ว่างตอนไหนก็เปิดเข้ามาอ่านกัน เรื่อยๆนะคะ คำว่า บุญ ความหมายตามพจนานุกรมพุทธศาสน์ของพระราชวรมุนี (ประยุทธ์ ปยุตโต) กล่าวว่า บุญ คือเครื่องชำระสันดาน ความดี กุศล ความสุข ความประพฤติชอบทางการ วาจา และใจ กุศลธรรม บารมี คือคุณงามความดีที่บำเพ็ญอย่างยิ่งยวด เพื่อบรรลุจุดหมายอันสูงยิ่ง วิธีการสร้างบุญบารมีในพระพุทธศาสนามี อยู่ 3 ขั้นตอน คือ การให้ทาน การถือศีลและการเจริญภาวนา ที่นิยมเรียกกันว่า ทาน ศีล ภาวนา ซึ่งการให้ทานหรือการทำทานนั้นเป็นการสร้างบุญที่ต่ำที่สุด ได้บุญน้อยที่สุด ไม่ว่าจะทำมากอย่างไรก็ไม่มีทางที่จะได้บุญมากไปกว่าการถือศีลไปได้ การถือศีลนั้นแม้จะมากอย่างไร ก็ไม่มีทางที่จะได้บุญมากเกินไปกว่าการเจริญภาวนาไปได้ ฉะนั้น การเจริญภาวนานั้น จึงเป็นการสร้างบุญบารมีที่สูงที่สุด ได้มากที่สุด ในทุกวันนี้เรารู้จักกันแต่การให้ทานเพียงอย่างเดียว เช่นการทำบุญตักบาตร ทอดกฐิน ผ้าป่าสละทรัพย์สร้างโบสถ์ วิหารศาลาการเปรียญ ส่วนการถือศีล แม้จะได้บุญมากกว่าการทำทานก็ยังมีการทำกันเป็นส่วนน้อยเพื่อความเข้าใจอันดีจึงขอชี้แจงการสร้างบุญบารมีอย่างไรจึงจะเป็นการลงทุนน้อยที่สุดแต่ได้บุญบารมีมากที่สุด

SixSense By U

อย่าแปลกใจนะคะที่ชื่อของเรื่องราวที่ทำคือ ยิปซีผู้หญิงผิวเข้ม อิอิ แต่เรื่องราวของบลอคนี้มีเรื่องราวของพุทธศาสนาและเรื่องอื่น ๆ ฯลฯ เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย เพราะเราศรัทธาและนับถือศาสนาพุทธก็เลยอยากฝากเรื่องราวดี ๆ เกี่ยวกับพุทธศาสนามาให้อ่านกัน และมีอีกหลายเรื่องราวที่จะนำเสนอสลับกันไป..หลายๆ ครั้งก็เป็นนักผจญภัย และนักเดินทางสะพายเป้...

เช้านี้เป็นเช้าที่ลูกค้าโทรมาปลุก..ในเวลาที่กำลังงัวเงีย เหมือนจะตื่นแต่ไม่อยากลุก แต่พอสิ้นสุดเสียงคุย โทรศัพท์ฉันก็ตื่นทันทีเพื่ออาบน้ำ ชำระล้างกาย แต่งตัวเสร็จพอดีลูกค้าก็ตะโกนเรียกหน้าบ้าน ..

เรียกว่าวันนี้เป็นเช้าที่โชคดี แต่ที่ตื่นสายก็เพราะว่า เหตุเกิดจากเมื่อวาน...ปกติเช้าขึ้นมาดื่มกาแฟด้วยรสชาติที่เข้มข้นแก้วเดียว ก็อยู่ได้ทั้งวัน แต่เมื่อวานช่วงบ่ายดันดื่มกาแฟแก้วที่ 2 ไปทำให้นอนหลับในเวลาปกติไม่ได้ แม้กลางคืนจะอ่านหนังสือ ถึงตี 1 ก็ยังไม่อยากนอน อ่านจนตีสองถึงได้หลับ หนังสือที่อ่านเมื่อคืนเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับพุทธศาสนา แม้จะทำให้ตื่นสายแต่ก็นับว่าโชคดีเพราะได้เรื่องดีๆ ที่จะมาแบ่งปันสำหรับเช้าวันนี้ ...... หนังสือดีๆเล่มนั้นชื่อ " หนังสือเรื่องวิธีการสร้างบุญบารมี " ซึ่งผู้ศรัทธาในพุทธศาสนา นำมาแจกก็ทำให้เข้าใจเรื่องราว ของการทำบุญ ทำทานได้มากขึ้น ก็เลยอยากจะร่วมเผยแพร่ให้กับผู้ที่อาจจะอยากรู้ หรือไม่อยากรู้ แต่เมื่อรู้แล้วเกิดประโยชน์ ก็อยากแบ่งปัน จะได้บุญกันทั่วหน้า .. แต่ก่อนจะเล่าเรื่องหนังสือ ......

หัวข้อวันนี้เกี่ยวกับสัมผัสที่หก งั้นจะขอพูดเรื่องนี้ก่อนเลยนะคะ ทั้ง ๆ ที่ตั้งใจว่าจะลงเรื่องการสร้างบุญบารมี แต่เป็นสัมผัสที่หกของลูกค้า แล้วเกี่ยวข้องกับสัมผัสที่หกได้อย่างไร ....

เป็นวันที่โชคดีเพราะลูกค้าเก่าพาลูกค้าใหม่มา 2 คน คุณเนตรเป็นลูกค้าที่รู้จักคุ้นเคยพอดูจบเรียบร้อยเสียงตอบรับก็ดี เพราะทักเหตุการณ์รอบ ๆ ตัว สิ่งแวดล้อมได้ชัดเจนเป็นการช่วยตัดสินใจได้อย่างดี แต่ความแม่นยำคงต้องรอให้ลูกค้า มาบอกเองในโอกาสต่อไปเพราะไพ่ ณ.วันนี้ดูได้ 3 เดือน แต่สิ่งที่ทำให้ขนหัวลุกบ้างจากคุณเนตร เพราะดูเป็นคนสุดท้าย พี่เนตรเล่าเรื่องเป็นการยืนยันจากสิ่งที่เราทัก แม้จะเป็นเรื่องสั้น ๆ แต่ก็ทำให้ขนลุกไปตามๆกัน ฉันทักพี่เนตรไปว่า ช่วงนี้ไม่ค่อยได้ไหว้เจ้าที่หรือเปล่าค่ะ พี่เนตรบอกว่าไม่ค่อยได้ทำบุญให้ ฉันเลยบอกไปว่า สวดมนต์ภาวนาและแผ่เมตตาหรือตั้งของบูชาทุกวันพระก็ได้ พี่เนตรบอกว่าแต่เขาแรงมากเลยนะ และพี่เนตรก็เป็นคนที่มีสัมผัสที่หกแรงเช่นกัน พี่เนตรเล่าว่า เมื่อสองวันก่อน พี่เนตรนั่งสวดมนต์ในห้องพระ แล้วรู้สึกว่ามีคนมานั่งอยู่ด้านหลังทางด้านขวามือ พี่เนตรสวดไปเรื่อย ๆ ก็รู้สึกว่าขนลุกและเหมือนคนด้านหลังนั้น ขยับมานั่งด้านข้างติด ๆ เลย คราวนี้เกิดขนลุกทั้งตัว พี่เนตรจึงท่องคาถาหลวงพ่อโต ชินบัญชร และต้องรีบลุกเลิกสวด ... จริง ๆ แล้วสิ่งเร้นลับที่มองไม่เห็นนั้นคงมาร่วมฟังการสวดมนต์ของพี่เนตร ไม่ได้มาทำร้ายอะไร กับมารับส่วนบุญที่พี่เนตรจะแผ่ให้ด้วย แต่เป็นเพราะพี่เนตรสัมผัสได้แรง จึงทำให้เกิดการรับรู้กับสิ่งที่มองไม่เห็น และเมื่อจิตเราไม่นิ่งพอ ก็ทำให้เรากลัว ซึ่งจริง ๆ แล้วสิ่งนั้นไม่ได้มาทำร้ายเราแน่นอน แล้วสิ่งเร้นลับสิ่งนั้นก็มีจิตที่แรง เพราะสามารถส่งจิตและพลังมาทำให้พี่เนตรรับรู้ว่าเขารับรู้แล้วนะ ไม่ว่าจะเป็นผีบ้าน ผีเรือน ผีบรรพบุรุษ .... หากปกติท่านเป็นคนที่สวดมนต์ สิ่งเร้นลับ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ก็จะมาร่วมฟังการสวดมนต์กับท่านแน่นอน แต่ว่า สัมผัสที่หก ไม่ใช่ที่ทุกคนจะมี หรือมีมากมีน้อยต่างกัน ดังนั้นบางคนอาจจะไม่เคยได้รับรู้เลยก็เป็นได้ แต่จริง ๆ แล้วสิ่งที่ติดตามเราอยู่ เฝ้าคอยให้เราสวดมนต์แผ่เมตตาให้เขามารับรู้ด้วยทุกครั้งนะคะ เรื่องของพี่เนตรยังไม่จบ เพราะเรื่องที่ ทักไปอีกเรื่องคือ พี่เนตรไปที่ไหนก็จะสามารถสัมผัสกับสิ่งเร้นลับ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ณ ที่นั้น ๆ ได้ พี่เนตรบอกว่า เคยไปเที่ยวบ้านเพื่อนรุ่นพี่คนหนึ่งเดินผ่านตู้ใบหนึ่งของบ้านหลังนั้นแล้วขนลุก แล้วก็พูดออกมาว่าทำไมเดินทางผ่านตรงนี้แล้วขนลุก พี่เจ้าของบ้านก็ยิ้ม ๆ พอพี่เนตรเดินมานั่งที่โต๊ะรับแขก ก็ยังติดใจ และรู้สึกว่าเหมือนมีใครอยู่แถวๆตู้ใบนั้น เลยถามพี่เจ้าของบ้าน พี่คนนั้นเลยเฉลยว่า ตู้ใบนั้น ตั้งกุมารไว้ ... พี่เนตรเลยรู้ว่าคำถามนั้นคำตอบคืออะไร ... นี่ก็เป็นอีกเรื่องคือว่า ไม่เชื่อแต่อย่าลบหลู่ ...

อยากดีให้หมั่นเจริญภาวนา Want Good Thing ^^

· คนฉลาด กำลังทำงาน ส่วนคนโง่ กำลังดูฤกษ์ยาม · หนึ่งวินาที คบบัณฑิต ดีกว่าหนึ่งปีคบคนพาล · อย่าประมาทเมื่อพบงานง่าย อย่าท้อใจเมื่อพบงานยาก · ถ่อมตนคนรัก อวดนักคนชัง ( อวดดี..ไม่ใช่การอวดที่ดี) · เสริมเสน่ห์ตนเองด้วยร้อยยิ้ม ดีกว่าคอยพึ่งพิงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ · ไม่ควรไว้ใจในคนที่ชอบทำบาป (ถ้าทำบาปแลกบุญ จะขาดทุนร่ำไป ) · คนจนยิ่งจนเพราะทำรวย คนรวยยิ่งรวยเพราะทำจน · เรายอมแพ้คนเพื่อเอาชนะกิเลส ดีกว่ายอมแพ้กิเลสเพื่อเอาชนะคน · ยามไปซื้อของ อย่าอวดเงินทองให้ใครเห็น · คำสรรเสริญควรให้ไป คำติชม ควรเก็บไว้เพื่อส่องตน · ระวัง อย่าให้สูญเสียคนดี เพราะคนชั่วแทนที่ไม่ได้ · คนโง่แสวงหาพระเครื่อง ผู้ฉลาดแสวงหาธรรม · ทำแบบคนเจ๊กจากเล็กไปใหญ่ ทำแบบไทยจากใหญ่ไปเล็ก · มารยาทงามนี่แหละ จะพลอยทำให้วาสนาดี เพื่อนบ้านที่อยู่ใกล้ ดีกว่าพี่น้องในไส้ที่อยู่ไกล

สนุกพร้อมสงบในการใช้ชีวิต ๒

เมื่อเรารู้สึกเกลียดชังใครสักคน ไม่อยากพูดด้วย ไม่อยากเห็นหน้า ไม่อยากเกี่ยวข้อง ไม่อยากร่วมงาน

โดยธรรมชาติของมนุษย์ ยิ่งเกลียดยิ่งได้อยู่ใกล้ ยิ่งโกธรก็ยิ่งถูกแกล้ง

ทำอะไรลงไปดูเหมือนขัดใจ ขวางหู ขวางตาไปหมด เพราะเราตั้งใจไว้ผิดเสียแล้ว เพียงเห็นก็เป็นทุกข์

เขามายืนใกล้ ๆ ทำท่าพูดคุย ก็คิดไปว่าเขากำลังนินทาเรา เราเป็นทุกข์เพราะความคิด ทุกข์เพราะจิตนาการ

เป็นความผิดของเราเอง มิใช่ความผิดของเขา บางทีเขาก็แกล้งให้เราเป็นทุกข์ เพราะรู้ว่าให้ยาพิษแล้วเรายินดีรับมาดื่ม เป็นความผิดของเราเอง เรากำลังจุดไฟเผาเราเองต่างหาก เป็นเรื่องน่าคิดว่า มนุษย์เราชอบมองหาความผิด ชอบจับเอาความผิด ของผู้อื่น เมื่อรวบรวมความผิดของคนอื่นเอาไว้ในใจมาก ๆ ก็กลายเป็นกองขยะที่เน่าเหม็นที่อยู่ในใจ ไม่ได้มีจิตใจที่สวยงามอีกต่อไป การคิดแง่ลบ นอกจากทำให้ใจสกปรกแล้วยังทำให้คนที่อยู่รอบตัวเราเป็นทุกข์ไปด้วยเพราะ ขยะในใจเรา และมองด้านบวก คิดบวก พูดบวก ทำทุกอย่างด้วยใจที่บริสุทธิ์ สะอาด และรวบรวมแต่สิ่งดี ๆ ไว้ในใจ และนี่คือการแผ่เมตตาสำหรับการใช้ชีวิตสำหรับวันธรรมดาทุก ๆ วันให้มีความสุข สงบ หากในทางพุทธศาสนา พระพุทธเจ้าสอนไว้ว่า ให้คิดไว้ว่า คนทุกคน ไม่ว่ารักหรือ เกลียด เป็นสรรพสัตว์ ที่เป็นเพื่อนร่วมทุกข์ เกิดแก่เจ็บตาย ร่วมโลกเดียวกัน

ทุกชีวิตเป็นเพียงธาตุ 4 ขันธ์ 5 ทั้งนั้น ท่านสอนให้เราแผ่เมตตาให้ศัตรูโดยไม่รู้สึกติดขัด .

ให้คิดว่าทุกคนเป็นเพียงสิ่งมีชีวิตที่มาเยือนโลก ชาติชั้นวรรณะเขาสมมติให้เรียก การเกิดมาก็ไม่ต่างจากการมาเที่ยว เมื่อวีซ่าหมดอายุก็ต้องกลับ ไม่ยึดติดว่าใครคือคนที่เรารัก ใครคือคนที่เราเกลียด เพราะ มีเกิด มีแก่ มีเจ็บ มีตาย ทุกคนเป็นเพียงสรรพสัตว์บนโลก ไม่มีใครเป็นศัตรู คิดได้เช่นนี้ใจก็จะเป็นสุข และเราก็จะสามารถเริ่มแผ่เมตตาได้ และก่อนแผ่เมตตาให้ปรับให้ทุก ๆ สรรพสัตว์ที่อยู่รอบตัวเรา ที่เราเองสมมติขึ้นมาว่ารัก ว่าเกลียด ให้อยู่ในระดับเดียวกัน การแผ่เมตตาก็จะไม่ติดขัด สรรพสัตว์ทั้งหลายก็จะได้ ผลของการแผ่เมตตาในครั้งนี้เท่า ๆ กัน ใจเราเองก็จะเบิกบานแจ่มใส มีแต่สิ่งสวยงามอยู่ในใจ ใครอยู่ใกล้ ๆ ก็เป็นสุขสบายใจ ฝึกคิดด้านบวกให้ได้ อย่างสม่ำเสมอ ใจที่สวยงามก็จะงามอย่างเป็นธรรมชาติตลอดไป

คำคม จำไว้ว่ายิ่งเดินหนี แม้จะไม่เห็นหน้าคนที่เราเกลียด แต่อารมณ์ของเราที่อยู่ในตัวเรานั้นหนีอย่างไรก็หนีไม่พ้น หันกลับมามองผู้อื่นในแง่ดี ด้วยความเข้าใจและอภัยนั่นคือกำไรชีวิต.

***********************

บทแผ่เมตตา ให้สรรพสัตว์ สัพเพ สัตตา สัตว์ทั้งหลาย ที่เป็นเพื่อนทุกข์ เกิด แก่ เจ็บตาย ด้วยกันทั้งหมด ทั้งสิ้น อเวรา โหนตุ จงเป็นสุข เป็นสุขเถิด อย่าได้มีเวรแกกันและกันเลย อัพยาปัชญา โหนตุ จงเป็นสุข เป็นสุขเถิด อย่าได้พยาบาท เบียดเบียนซึ่งกันและกันเลย อะนีฆา โหนตุ จงเป็นสุข เป็นสุขเถิด อย่าได้มีความทุกข์กายทุกข์ใจเลย สุขีอัตตานัง ปะริหะรันตุ จงมีความสุขกายสุขใจ รักษาตนให้พ้นจากทุกข์ภัย ทั้งสิ้นเถิด บทแผ่เมตตาให้ตนเอง อะหัง สุขิโตโหมิ ขอให้ข้าพเจ้ามีความสุข นิททุโข โหมิ ปราศจากความทุกข์

อะเวโร โหมิ ปราศจากเวร อัพยาปัชโยโหมิ ปราศจากอุปสรรคอันตราย และความเบียดเบียนทั้งปวง อะนีโฆ โหมิ ปราศจากความทุกข์กายทุกข์ใจ สุขีอัตตานัง ปะริหะรามิ มีความสุขกายสุขใจ รักษาตนให้พ้นจากทุกข์ภัยทั้งสิ้นเถิด

**********************

สนุกพร้อมสงบในการใช้ชีวิต Enjoy fully calm in living

ในแต่ละวัน หากมนุษย์สามารถใช้ชีวิตได้อย่างสนุกสนาน แต่แฝงไปด้วยความสงบและไม่ฟุ้งซ่าน จะเป็นเรื่องที่ดีมาก ........... เพราะ

มนุษย์ไม่จำเป็นต้องสนุกเมื่อมีกิจกรรมที่ส่งเสียงดัง ไม่ว่าจะเป็นเสียงดนตรีหรือเมื่ออยู่ท่ามกลางเสียงร้องตะโกนเชียร์กัน

**********

แต่หากมนุษย์มีความสนุกทุกลมหายใจเข้าออก ไม่ว่าเมื่องานหนัก

หรือเมื่อต้องอยู่ในที่จอแจ วุ่นวาย แม้แต่ต้องอยู่ในสังคมกับคนที่เราไม่อยากจะพานพบแต่เลี่ยงไม่ได้ ...

และปัจจัยหนึ่งที่มนุษย์มักอ้างว่า ทำให้วันนั้นทั้งวันไม่สนุกในการทำงาน ก็เพราะมนุษย์ด้วยกันนั่นเอง ที่เรียกว่าศัตรูหรือมารมาก่อเรื่อง สร้างความขุ่นเคืองในใจ ...

และปัจจัยนี้เมื่อพิจารณากันแล้ว มนุษย์ส่วนใหญ่ มักนำมาอ้างว่าเป็นปัจจัยหลัก ที่ทำให้ชีวิตในวันนั้นไม่น่าอยู่ ไม่สงบ ไม่สนุก ...

แต่มนุษย์ก็อีกนั่นแหละที่เป็นสิ่งควบคุมยาก แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะทำให้ดีขึ้นมาไม่ได้หรือ ใช่ว่าจะควบคุมไม่ได้ ... สิ่งที่ควบคุมได้ง่ายที่สุดก็คือมนุษย์เรา (ตัวเรา) นั่นเอง โดยใช้คำว่า

การให้อภัย ให้มาก .......... นี่แหละคือเทคนิคเพื่อชีวิตสนุกที่สงบในแต่ละวัน **

.......... จากคำกล่าวของ ผู้เขียนหนังสือท่านหนึ่ง นามปากกาว่า ปิยโสภณ ..........

ศัตรูตัวใหญ่คือใจเราเอง ศัตรูภายนอกไม่ร้ายแรง เท่ากับศัตรูภายใน ศัตรูภายนอก นอนคนละบ้าน

แต่ศัตรูภายในนอนกอดทุกวัน การให้อภัยศัตรูใด ๆ เริ่มต้นที่ใจเราเอง

วิธีเริ่มต้นให้เริ่มจากการคิดบวก พูดบวก ทำบวกให้เป็นนิสัย

ไม่ฝึกนิสัยมองคนในแง่ร้าย การคิดลบ คิดร้าย คือการเพาะเชื่อมะเร็งแก่ตนเองโดยไม่รู้ตัว

ถ้าอยากมีความสุขใจ ไม่เพาะเชื้อมะเร็ง โดยไม่รู้ตัว

ขอให้เรามาแจกรอยยิ้มให้แก่กัน ให้อภัย แผ่เมตตา ไม่เสียเงิน ไม่สิ้นเปลืองใด ๆ ทั้งสิ้น ...

ให้อภัยศัตรูหรือแผ่เมตตาให้ศัตรูนั่นเอง ...

คำคมให้แง่คิด : พยายามด้วยจิตวิญญาณ อย่าพยายามด้วยผลประโยชน์

The Magician นักเล่นกล คนที่มีสัมผัสที่ 6 หมอดู

uU

A human is kind one animal at is free from evil from the sorrow has whole ,

มนุษย์เป็นสัตว์ชนิดเดียวที่หลุดพ้นจากความทุกข์ทั้งปวงได้

เป็นคำกล่าวของ นักการตลาดมือระดับต้น ๆ ของเมืองไทย คุณเหมียว วรัดดา..เป็นคำพูดที่ดีมาก ๆ เพราะจริง ๆ ถึงเราจะเป็นหมอดูไพ่ยิปซี แต่สิ่งที่เราเชื่อและคิดอยู่เสมอก็คือ ไม่ใช่ดวงชะตาหรือพรหมที่ลิขิต ที่พาให้ทุก ๆ อย่างเข้ามาหา เราทั้งนั้นที่กำหนดให้เกิดความสุข ความทุกข์และการกระทำของตัวเราเองนั่นแหละ จะเป็นผู้กำหนดชะตาชีวิตของตัวเราเอง

** คุณเคยขับรถไปไหนต่อไหนโดยไม่ได้ตั้งใจแต่ยังอยากขับ ไม่อยากจอด หรือเมื่อขับรถโดยมีจุดหมายอยู่ที่ไหนสักแห่ง แต่แล้วบังเอิญหลงทาง และกับไปเจอเหตุการณ์ที่เป็นคำตอบในสิ่งที่เคยอยากรู้มานานแสนนาน ซึ่งบางเรื่องลืมไปแล้ว หรือเหตุการณ์นั้นบอกเรื่องราวบางอย่างโดยที่ไม่เคยรับรู้มาก่อน

แต่ก็เป็นประโยชน์ในการตัดสินใจในเรื่องบางเรื่องที่คั่งค้างอยู่ในใจ และเกือบทุกครั้งทำให้คุณตัดสินใจเรื่องต่าง ๆ ได้อย่างถูกต้อง และเกิดผลสำเร็จจากการตัดสินใจในครั้งนั้น .. เหตุการณ์เหล่านี้ เขาเรียกกันว่า ลางสังหรณ์หรือสัมผัสที่ 6..หากเหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้นในชีวิตคุณบ่อย ๆ คุณเชื่อเถอะว่า คุณเป็นคนที่มีสัมผัสที่ 6 แรงและหากคุณมายิปไพ่ทำนายดวงชะตาในเรื่องสิ่งที่คุณเป็นพื้นฐานดวงพื้นฐานนิสัยคุณจะต้องได้

ไพ่เดอะเมจิคเชี่ยน .. ใบนี้อย่างแน่นอน คุณเชื่อไหมว่า คนที่มีสัมผัสที่ 6 แรง คนที่สามารถรู้เหตุการณ์ล่วงหน้าได้ สามารถเป็นหมอดูได้ ไม่ว่าจะหมอดูไพ่ยิปซี หมอดูโหราศาสตร์ หมอดูไพ่ป็อก ฯลฯ เขาเหล่านั้นก็ต้องใช้สิ่งที่เรียกว่า ลางสังหรณ์หรือสัมผัสที่ 6 ทั้งสิ้น แล้วสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้เกิดขึ้นมาได้อย่างไร

จริง ๆ แล้วก็ไม่มีใครสามารถตอบได้แต่คำตอบที่น่าจะใกล้เคียงมากที่สุดก็คือพรสวรรค์ที่ติดตัวกันมาตั้งแต่เกิดนั่นเอง ..

** เราขอยกตัวอย่างผู้ที่เป็นหมอดูไพ่ยิปซี และมีเหตุการณ์ต่าง ๆ ดังที่กล่าวมาข้างต้น เกิดขึ้นจริง กับตัวเขาโดยที่แรกเลยเขาเองก็ไม่รู้ตัวเช่นกัน..จนวันนึงมีคนหนึ่งคนบอกแล้วทำให้เขานึกได้ถึงสิ่งนั้นของตนเอง

คนนั้นก็คือ ตัวเรานั่นเอง .. อิอิ ..

** ตอนที่ดิฉันเรียนอยู่ ม.4 พี่สาวของเราเองชอบอ่านหนังสือและตัวเราเองก็เป็นคนรักการอ่าน แต่ส่วนใหญ่จะเป็นหนังสือที่อยู่นอกตำราทั้งสิ้น ยิ่งเรื่องราวลึกลับ สยองขวัญ สั่นประสาท ขาดไม่ได้เลยจริง ๆ อ่านไปกลัวไป อ่านไปต้องสะกิดพี่สาวที่หลับอยู่ข้าง ๆ ให้มาอยู่เป็นเพื่อนก็ทำอยู่ประจำ.. หนังสือเล่มนึงที่สาวเป็นคนริเริ่มซื้อมาอ่านคือ ตำราไพ่ยิปซี ของคุณขุนทอง อสุณี .. เมื่อชอบอ่านแล้วในตำราก็นำเสนอและสอนวิธีทำนายด้วย ก็เลยทั้ง อ่านทั้งลอง แล้วยิ่งอ่าน ยิ่งชอบ ยิ่งอ่าน ยิ่งขี้เกียจ ทำอย่างอื่น แต่คนอื่น ๆ แม้แต่ตัวพี่สาวเขาหยิบ เขาจับ สุดท้ายเขาก็วาง เราเอง ชอบถึงขั้นนำไปทายให้กับเพื่อน ๆ ที่โรงเรียนก็ทายกันเล่น ๆ สนุกสนาน ตอนนั้นังเด็ก ๆ แม่นไม่แม่น ทายได้ครบหรือไม่ครบ ก็ตื่นเต้นเฮฮากัน ก็เป็นกิจกรรมนึงที่นำมาคุยกันในวงเพื่อนฝูง ก็ทั้งแม่นบ้างไม่แม่นบ้างอาจเพราะตอนเป็นวัยรุ่น ประสบการณ์น้อย พลิกแพลงก็ยังไม่เป็นแต่เนื้อหาสาระ การค้นคว้าเพิ่มเติมก็ยังไม่มี คำทำนายอาจจะไม่ลงลึก รู้แต่เพียงคำทำนายตามตำราและยังต้องเปิดหนังสืออ่านอยู่บ้าง เนื้อหาแปลก ๆ ก็ยังไม่มี และก็ไม่ได้ศึกษาเล่มไหนเพิ่มเติม แต่ก็เอาเป็นว่าถึงขั้นหมกหมุ่นอยู่กับหนังสือเล่มนี้ เล่มเดียว กับไพ่สำรับนี้สำรับเดียวเลยไม่ว่า ปิดเทอมเปิดเทอม .. อิอิ ก็จับอยู่นานประมาณ 3 - 4 เดือนนะตำราแต่ก็หลังจากนั้นก็ไม่ต้องถือตำรา ถือแต่ไพ่ดูให้เพื่อนใกล้ ๆ ตัว ดูให้คนในบ้าน ตรงบ้าง ไม่ตรงบ้าง มีไพ่อยู่ด้วยตลอด จนกระทั่งเอ็นทรานซ์เข้ามหาวิทยาลัย ดู ๆ แล้วไพ่เหมือนเพื่อนสนิทเลย แต่ตอนแรก ๆ อยู่ปี 1 - 2 ก็ยังไม่มีใครรู้ว่าเราดูไพ่ยิปซีเป็น..แล้วก็ยังไม่คิดจะดูให้ใครนอกจากตนเอง..เพราะกลัวเขาจะบอกว่า ไม่แม่นเลยว่ะ ไม่เจ๋งเลย อิอิ****แต่มีอยู่วันนึง เป็นวันเริ่มต้นของการจุดประกาย มีเพื่อน ๆ ในกลุ่ม คุยกันว่า มีร้านเหล้าเล็ก ๆ ร้านนึง เจ้าของร้านดูไพ่ยิปซีเป็นและดูให้เพื่อน โดยคิดค่าครูแค่ 1 บาทโดยโยนเหรียญขึ้นไปบนหลังตู้ ก็แม่นพอสมควร คราวนี้หูผึ่งละซิ หรอ ที่ไหน อยากไป.. ใจจริง ๆ ตอนนั้น แค่อยากไปดูดวง และคิดแค่ว่าอยากรู้ว่าอนาคตของตนเองเป็นยังไงเรียนจะแย่หรือจะดี จะจบไหม คนที่ชอบอยู่จะสมหวังอ่ะเปล่า คิคิ แล้วก็เลยนัดกันไปกับเพื่อน ๆ ว่าจะไปนั่งทานข้าวที่ร้านพี่เค้า ตอนนั้นเหล้าเราเองยังไม่สันทัดและคิดว่าจะไปนั่งแล้วขอให้พี่เค้าดูให้ แต่พอไปถึงปรากฏว่า ไม่ต้งร้องขอ

****** เพราะพี่เค้าดูให้ โดยเสียค่าครู 50 บาท ซึ่งก็โดนกันไปเต็ม ๆ ตาม ๆ กัน ******

หลังจากดูให้เพื่อนทั้ง 2 คนพี่ป้อมเจ้าของร้านและหมอดูไพ่ยิปซี ก็ดูให้เรา .. หลังจากที่ หยิบไพ่ครบ 10 ใบ ในครั้งแรก ( ตอนนั้นจำไม่ได้จริง ๆว่าดู 10 ใบทั้งหมดกี่ครั้ง ) แต่ที่ประทับอยู่ในความทรงจำมากที่สุด ก็คือการเปิดไพ่ครั้งแรกนั่นเอง เพราะว่าพอไพ่เปิดออกมา ใบแรกที่ได้คือ The MaGiCian พี่ป้อมเห็นยังทักว่า

พี่ดูไพ่ยิปซีให้กับหลาย ๆ คนมา อืม ดูมา 100 กว่าคนแล้วนะ ยังไม่เคยมีใครได้ไพ่ใบนี้เป็นในแรกเลย มีเรานี่แหละคนแรก เราเป็นหมอดูได้นะ เรียนไพ่ยิปซีซิ มีสัมผัสที่ 6 แรงนะ และไพ่ส่วนอื่น ๆ ที่จับมาวันนั้นค่อนข้างดี เพราะเท่าที่ดูก็พอจะจำไพ่ได้ว่าไพ่ใบไหนมีความหมายในด้านใด ๆ แต่ไพ่เดอะเมจิคเชี่ยนเนี่ย เราเองก็แปลกใจนะ ทำไมบังเอิญจังที่ได้ไพ่ใบนี้เป็นใบแรก .. เหมือนกับไม่สามารถโกหกอะไรได้เลย เพราะจริง ๆ ในความหมายของไพ่ถ้าคิดกันให้ดีๆ ก็แปลว่า ตัวคุณก็ดูไพ่ได้ คุณก็เป็นหมอดูจะมาดูกับเค้าทำไมและพี่ป้อมในวันนั้นก็คงไม่ได้คิดว่าเรามาลองของเพราะไม่ได้คิดว่าเราเป็นหมอดูแม้แต่สมัครเล่น แต่ที่พี่เค้าทักและแนะนำก็เพื่อให้เราลองศึกษาดูนะ จะได้เป็นอาชีพเสริมให้กับตนเอง... วันนั้นกลับมาก็มาคิด เออ จริงแหะ ไพ่เนี่ยแม่นนะ พึ่งจะมาคิดได้ว่า ที่เรานั่งศึกษาอยู่นั่งศึกษามาตลอดเนี่ยมีความหมายนะ สิ่งนั้นจริง ๆ อยู่กับเราแล้ว เราสามารถทายให้คนอื่น ๆ ได้รวมถึงเพื่อนๆในมหาลัยแต่เราเองยังไม่มั่นใจในตนเอง จนได้คำตอบจากพี่ป้อม ทำให้เกิดความมั่นใจขึ้นมาและดูให้กับเพื่อน ๆ หลังจากนั้น แต่อีกเรื่องที่ได้ก็คือ ถ้าคุณคิดว่าคุณจะไปดูดวงที่ไหน โดยเฉพาะไพ่ยิปซี หากไพ่ทักอะไรออกมา คุณจะไม่สามารถปฏิเสธไพ่ได้เลยว่าเรื่องนั้นคุณได้ทำไปแล้วจริงๆ หรือมันอยู่กับคุณแล้วจริง ๆ คุณโกหกใครก็โกหกได้แม้แต่หมอดูแต่คุณโกหกไพ่ไม่ได้จริง ๆ

*** อยากจะบอกคุณว่า ...อย่าเสี่ยงถ้าไม่อยากให้ใครแม้แต่หมอดูรู้ความลับคุณ ...เพราะไพ่บอกได้ด้วยว่าตอนนี้คุณคิดอะไรอยู่ ดี หรือ ไม่ดี ***

**** การทำนายในด้านดีมาก ๆ อีกอย่างนึงของผู้ที่ได้ไพ่ใบนี้ก็คือ เป็นคนที่มีความคิดหลากหลาย คิดอะไรได้มากมายกว่าคนอื่น ๆ แต่ควรคิดแล้ววางแผนงาน คิดแล้วให้คนอื่นเป็นผู้กระทำ คุณรู้ไหมว่า คุณอาจจะคิดให้ผู้อื่นพอเค้ากลับไปทำ คนนั้นอาจจะรวยไปเลย ถ้าคุณได้ไพ่ใบนี้โดยเฉพาะในตำแหน่งเจ้าชะตา คุณจะเป็นคนที่มองอะไรได้ลึกซึ้ง สามารถคิดหาเหตุผล และคำอธิบายในเรื่องที่รู้ได้อย่างละเอียด ดังนั้นหากอยากให้เกิดผลเลิศ ผลสำเร็จ คุณต้องเป็นนักคิด แล้วให้คนอื่นไปกระทำ เพราะคุณจะได้มีเวลาคิดให้มากขึ้น แค่ความคิดของคุณเองก็มีโอกาศสำเร็จเกิน 70 % แล้วหากเลือกทีมงาน หรือผู้ปฏิบัติงานดี ๆ คุณต้องได้ความสำเร็จ 100 % แน่นอน..**** การทำนายในเรื่องของพื้นฐานจิตใจ พื้นฐานดวง สำหรับผู้ที่หยิบได้ไพ่ใบนี้ก็คือ บางครั้งก็ทำอะไรโดยที่ไม่มีใครคาดฝันได้ มีโลกส่วนตัวสูง ชอบอยู่เงียบ ๆ บางครั้งก็ หวั่นไหวเกินเหตุ .. แต่ทุกเรื่องที่กล่าวมา หากรู้เท่าทันก็จะอยู่กับเรื่องเหล่านั้น อย่างมีสติและพอเพียง .. ไพ่ใบนี้จะค่อนข้างมีเรื่องราวที่ยาวในด้านพื้นฐานจิตใจ และเอกลักษณ์ในตนเอง ส่วนเรื่องอื่นๆ ที่สำคัญไม่น้อยไปกว่ากันไม่ว่าจะเรื่องงาน เงิน รัก เหตุการณ์ ที่จะตอบคุณได้ว่าเป็นแง่ใด มุมใด เมื่อหยิบไพ่ใบนี้

**** เรื่องของความรัก หากคุณจับได้ไพ่ใบนี้ นั่นหมายถึงว่า คุณเป็นคนที่มีความรักที่ค่อนข้างดี สมบรูณ์ หากถามถึงคนรักปัจจุบันก็น่าจะเป็นการตอบที่ว่า คุณสองคนนะ เริ่มรักกันแบบเพื่อนจะเลิกรักกันยากส์ จะว่าเป็นคู่แท้ ก็สามารถตอบได้เช่นกัน ส่วนความคิดและเหตุผลในการเลือกคู่ของคุณก็มีค่อนข้างสูง เพราะคุณใช้ 6Sense ในการเลือกคู่ ถ้าคุณสัมผัสว่าไม่ใช่ ไม่ว่าจะสมบรูณ์พร้อมแค่ไหน คุณก็จะไม่สานต่อแน่นอนแต่หากว่า ความรู้สึก6Sense ของคุณบอกว่าใช่ คุณก็พร้อมที่จะเสี่ยงทันที

****หากคุณถามเกี่ยวกับเรื่องฐานะทางการเงินไพ่สามารถตอบคุณได้ว่า คุณน่ะหาเงินเก่งแต่ก็ใช้เงินเก่งไม่เบา แต่คุณเองก็มักจะหาเหตุผลมารองรับว่า คุณซื้อไปด้วยเหตุผล มันคุ้มค่าแล้วกับสิ่งที่ทำ แต่ของที่คุณซื้อก็มีหลายสิ่ง หลายอย่างมากมาย แต่หากดูกันดี ๆ สำรวจกันดี ๆ แล้วก็จะเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับงานหรือสิ่งที่คุณกำลังทำอยู่มากที่สุด

หากคุณมีคำถามในเรื่องการงาน ในช่วงที่คุณมาเปิดไพ่ตอนกำลังจะเรียนจบ ว่าในอนาคตที่กำลังจะเกิดขึ้นนี้คุณจะได้งานประเภทไหน หรืองานใดที่เหมาะกับคุณ จากความหมายของไพ่สามารถตอบคุณได้เลยว่า คุณจะได้งานไม่ตรงกับที่เรียนมา...แต่หากคุณทำงานอยู่แต่อยากเปลี่ยนงาน ไพ่สามารถตอบได้ว่า กำลังจะได้งานที่ไม่เคยได้ทำมาก่อน แต่ทำไปแล้วจะดีอย่างไม่คาดฝัน ... และหากคุณได้งานที่ใหม่หรือกำลังจะเริ่มกิจการใหม่ และอยู่ในช่วงกำลังจะตัดสินใจ ว่าควรจะทำงานหรือกิจการชิ้นนี้หรือไม่ ... ไพ่บอกคุณว่าทำไปเลยคะ เสี่ยงไปเลยสำเร็จแน่นอนและคุณจะได้เรียนรู้ หรือได้ความรู้ เรื่องใหม่ ๆ ซึ่งเป็นประโยชน์กับคุณในระยะยาวด้วย ... และหากถามเรื่องเสี่ยงทาย และ หยิบได้ไพ่ใบนี้ คำตอบก็คือ ได้ ค่ะ ...

สำหรับความหมายในด้านเทพ ที่ท่านผู้อ่านบางคนเชื่อและศรัทธาในเรื่องเทพ เทพองค์นี้ก็คือ พระพิฆเณศ-

ขอเล่าเรื่องที่เกี่ยวกับพระพิฆเณศให้ฟังนะ ( เรื่องนี้พูดได้ว่าเป็นความเชื่อส่วนบุคคล พิจารณากันเอาเอง แต่ก็พูดต่อได้อีกว่า ไม่เชื่อแต่อย่าลบหลู่)

ตอนนั้นจบปี 4 แล้ว จบหมาด ๆ คือ จบ 3 ปีครึ่งแต่ว่าเทอมที่ 2 เนี่ยเราลงเรียนมัคคุเทศน์ต่อเพื่อขอให้ได้ใบประกาศเพื่อจะนำมาทำบัตรไกด์ได้ ช่วงนั้นค่อนข้างสนิทกับอาจารย์ จิราภรณ์ อาจารย์เอกประวัติศาสตร์ เมื่อพูดถึงชื่ออาจารย์ ทุก ๆ คน จะแปลความหมายเป็นภาษาไทยได้ว่า โหด เคี่ยว ดุ ด่า ฯลฯ และอีกหลายๆ ความหมายที่ทำให้ ขนลุกได้ แต่ไหงไปสนิทกับท่าน ณ ตอนนั้นก็ไม่แน่ใจเหมือน อิอิ สงสัยจะเป็นเพราะไพ่ยิปซี อาจารย์ให้เข้าไปดูที่บ้านอาจารย์ ตั้งแต่การดูครั้งแรก อาจารย์ก็พูดให้ ขนลุก ขนพอง จริง ๆ แล้วอาจารย์ เป็นคนที่นุ่งขาว ห่มขาว เชื่อในเรื่อง สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ตอนนั้นเราเอง ก็ได้ยินมา และเชื่อในเรื่อง สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ว่ามีจริง แต่ออกแนว เชื่อและกลัว มากกว่าจะเคารพและศรัทธาและไม่เคยรู้จักเทพ องค์ไหน ๆ มากไปกว่าพระพุทธเจ้า .. เรื่องที่อาจารย์พูดก็คือ ขณะที่เราดูไพ่ให้กับเพื่อนขงอาจารย์อีกคนนึงนั้น .. อาจารย์จิ ทักขึ้นมาว่า .. กันทิมา เธอรู้ไหมว่า มีใครมานั่งฟังเธอทายน่ะ นั่งติดกับเธอเลย ใครหว่า ( เอิ้ก ๆๆ โอมายกอด OMG อาจารย์ค่ะ ไม่ต้องเหลาก็อได้ค่ะ หนูยังไม่ค่อยอยากรู้เลยค่ะ อยู่ดี ๆ พูดให้ขนลุกสะนี่ตอนนั้นทบทวนอาการที่เกิดในร่างกายตนเอง ก็คือ ขนลุกจากความกลัว ไม่ใช่ปวดท้อง ปวดไส้ แน่นอน อุอุ ) พอทายจบ อาจารย์พูดว่า .. กันทิมา เธอบูชาพระพิฆเณศนะ ท่านเป็นเทพแห่งความสำเร็จ เธอรู้จักท่านไหม เราก็ตอบอาจารย์ไปตรง ๆ เลยว่า ไม่รู้จักค่ะ เป็นยังไงค่ะ ท่านอาจารย์ก็ชี้ให้ดูรูปพระพิฆเณศที่ท่านบูชาอยู่ เราก้อคิด อ่อ เป็นอย่างนี้นี่เอง ท่านดูแปลกตาดีนะ ไม่เคยเห็น เพราะเศียรท่านเป็นช้าง .. ตอนนั้น เรื่องที่ให้คำตอบอะไรก็ไม่มี และก็เราเองไม่มีคำถามในใจเช่นกัน ถามอยู่เรื่องเดียวว่า อาจารย์ค่ะ อาจารย์จะพูดทำไมเนี่ย แล้วพระพิฆเณศเนี่ยผีหรือเปล่าก็ไม่รู้ อุอุ แต่หลัง ๆ มาก็มาทราบว่าพระพิฆเณศคือเทพให้พรด้านความสำเร็จ แต่ก็ยังไม่ได้หามาบูชาจนบังเอิญปี 49 ไปได้มา แต่เมื่อปี 50 จากหลายๆ ปี ผ่านไป นับได้ว่า 14 ปีพึ่งมานั่งทบทวน ตอนปลายปีเนี่ยแหละว่า ทำไมอาจารย์ถึงให้บูชาพระพิฆเณศ แล้วจาก 6Sense จากความเชื่อและศรัทธาของเราเองนะ ว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่มาฟังเราทาย ณ วันนั้นก็คือพระพิฆเณศ ... จริง ๆ เวลาก็ค่อนข้างยาวนาน จากวันนั้นเพราะตั้ง 14 ปี แต่ก็พึ่งได้คำตอบ แต่มันไม่ได้เป็นคำถามที่ทำให้นั่งคิดถึงทุกวัน แต่มันเป็นคำถามที่ฉุกคิดขึ้นมาในเวลาที่เหมาะสมพร้อมคำตอบที่เราเองก็ไม่สามารถพิสูจน์ได้ แต่มันเป็นความเชื่อความศรัทธา ที่ห้ามกันไม่ได้จริง ๆ ......

บทสวดพระพิฆเณศ ในทางศาสนาฮินดูเชื่อกันว่าพระพิฆเณศเทพเจ้าแห่งความสำเร็จและขจัดอุปสรรค เป็นเจ้าแห่งเทพทั้งปวง ... ก่อนจะขอพร หรือบูชาเทพ องค์อื่น ๆ ต้องบอกกล่าวพระพิฆเณศก่อนทุกครั้ง .. แต่ก่อนจะสวดบูชาพระพิฆเณศ ควรสวดบูชาพระพุทธเจ้าด้วยการท่อง

นโมตัสสะ ทั้งสิ้น 3 จบก่อนทุกครั้ง

โอมศรีคเณศายะ นะมะ ฮา 3 จบ หรือ โอมกัง กัณนะปะตะเย นะมะฮา 3 จบ

การบูชาใช้ธูปทั้งสิ้น 9 ดอก การขอพรใช้ธูปทั้งสิ้น 16 ดอก และธูปควรเป็นธูปแขก หรือธูปดำ

ของบูชา ผลไม้ เช่น กล้วยน้ำว้า อ้อย ขนมต้ม ผลไม้มงคลทุกชนิด , น้ำ นมสด นมเปรี้ยว

เมื่อธูปหมดอาหารทุกชนิดที่บูชาสามารถนำมาทานได้ และก่อนนำมาทานให้พูดว่า

เสสัง มังคลายาจามะ เพื่อที่จะสามารถนำมาทานได้หลาย ๆ คน

** โปรดจำไว้ว่าการขอพรเทพใด ๆ ของท่าน ท่านสามารถขอได้นานัปการและพรเหล่านั้นจะสามารถสำเร็จได้ ด้วยเช่นกัน จากความตั้งใจ ซื่อสัตย์ และพยายาม ของผู้ขอทั้งสิ้น

** Please remember , Begging for blessing from which God , You can beg for multifarious, and those blessing can succeed also with , from the intention , honesty , try , from person beg for whole .

เรื่องของการเสี่ยงทาย The Success By OnLy 1 Card

เรื่องมีอยู่ว่า เมื่อผู้มาตรวจดวงชะตา หรือแม้ตัวเราเองต้องการถามคำถามใด ๆ ก็ตามโดยที่อยากรู้เพียงว่า ได้ หรือ ไม่ได้ ไพ่ก็สามารถตอบท่านได้เช่นกัน แบบ สั้น ๆ รู้ดำ รู้แดงกันไปเลยซึ่งไพ่สามารถตอบท่านได้ในขอบเขตของเรื่องฐานะ เงิน เรื่องงาน เรื่องความรัก ครอบครัว และ เรื่องเทพ เทวดา แต่ไม่ต้องถามและตอบกันให้ยืดยาว เพียงแค่จะได้ ไหม สำเร็จไหม จะได้ทำเลย หรือ สถานการณ์ที่เป็นอยู่ เรามีหวังสำเร็จไหม ชนะไหมก็ให้ไพ่ตอบได้เลยเช่นกัน เหมาะสำหรับเรื่อง ปัจจุบัน ทันด่วน !! Trick ** อย่างเช่น คุณถามว่า เรื่องครั้งนี้กครั้งนี้จะสมหวัง สมปราถนาหรือไม่ แล้วคุณหยิบได้ไพ่ The EMPRESS คำตอบก็คือได้ !! แต่ยังมีความหมายให้ชื่นใจกันอีกนิดนึงคือ หากเป็นเรื่องความรัก ก็จะกล่าวได้ว่าคุณมันจะสมหวังเพราะเป็นคนที่มีวาสนาดีอยู่เป็นพื้นฐาน อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดี พบเจอแต่คนดี ๆ มีคนรักที่ดี สามารถมีลูกที่ดี มีครอบครัวที่อบอุ่น และสถานการณืปัจจุบัน คือ การแต่งงาน

หากถามถึงการเงิน** คุณก็เป็นคนที่มีเงินใช้สบาย สบาย ไม่เดือดร้อน เงินที่หวังก็กำลังจะมา และได้แน่นอน แต่จะหมดเพราะความใจดีนั่นเอง

หากถามในเรื่องการงาน** ส่วนใหญ่ก้จะได้หน้าที่การงานที่ดี และคุณเองก็เป็นคนทำงานดี เหมาะที่จะประกอบกิจการของตนเอง

หากถามเรื่องการเรียน** ก็สามารถเรียกได้ว่า คุณเป็นคนที่มีความใฝ่รู้ ใฝ่เรียน ขยันเรียน ความสำเร็จย่มอยู่ไม่ไกล และขอให้พยายามอย่างต่อเนื่องประสบความสำเร็จแน่นอน

หากถามถึงเรื่องเทพ** คุณมีพระแม่ลักษมี พระนางสุพรรณกัลยา พระแม่กวนอิมปางประทานพร

*********************************

The Beginning Part \\ 2

เช้านี้รีบตื่นขึ้นมาอย่างรวดเร็ว เนื่องจากจะมีเวลานั่งอยู่ตรงนี้ไม่นานเหมือนปกติทุกวัน เพราะช่วงเย็นต้องเดินทางไป ก.ท.ม. เนื่องจาก นัดทานข้าวกับน้องคนสนิท ในวาระดิถี วันเกิดอยากจะแก่ .. ของน้องนะคะ

เมื่อวานตั้งใจและพยายามให้รายละเอียดของไพ่ the Fool ให้ครบถ้วน แต่ไหง เช้ามาพอคิดว่าจะเขียนเรื่องราวของไพ่ใบต่อไป กับคิดขึ้นมาได้ว่า ไพ่ The fool ยังมีความหมายที่มากกว่านั้น ซึ่งเราเองก็ยังไม่ได้ใส่มันลงไปนัก ก็คือความหมายที่เกี่ยวข้องกับเรื่องงานนั่นเอง ....... The Beginning !!

Trick ** จำไว้เลยนะคะ ไม่ว่าจะไปดูไพ่ยิปซีที่ไหนก็ตาม การเปิดไพ่ 1 ใบนั้นสามารถตอบคำถามได้เกือบทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องตัวคุณมีลักษณะนิสัยเป็นอย่างไร เรื่องงานของคุณเป็นเช่นไร เรื่องความรักของคุณเป็นเช่นไร สถาณการณ์และคนรอบข้างของคุณเป็นเช่นไร เพราะว่าไพ่ 1 ใบมีความหมายให้คุณอ่านและจดจำได้ทุกเรื่อง เพียงแต่ว่าคุณนั่นเองเป็นผู้กำหนดว่า จะให้ผู้ตรวจดวงชะตาของคุณ หรือเรียกว่า หมอดูไพ่ยิปซีคนนั้น ให้คำตอบในเรื่องใด อย่างเช่นว่า คุณมาถามเราว่างานของคุณที่เหมาะและถูกโฉลกกับคุณนั้นควรเป็นงานประเภทใด เมื่อคุณถามจบ ดิฉันให้คุณหยิบไพ่มา 1 ใบ แล้วคำตอบจากหน้าไพ่คือ the fool นั่นก็แสดงว่า คุณเหมาะที่จะทำงานเกี่ยวกับ ผลับ บาร์ สถานบันเทิง ขายเหล้า ขายบุหรี่ อะไรก็ตามที่ขึ้นชื่อว่าเป็นงานบันเทิง ทำแล้วทำให้คนอื่นมีความสุข หรือแม้กระทั่งเรื่องการทำทัวร์ท่องเที่ยว ......

เห็นไหมค่ะว่าไพ่ 1 ใบสามารถบอกเรื่องราวในตัวเราได้หมดเกือบทุกเรื่อง เพราะชีวิต คนเราโดยทั่วไปก็อยากรู้ ใน 3 เรื่องนี้ ก็คือ เรื่องฐานะ คือ เงิน ทรัพย์สิน เรื่องงาน เรื่องความรักและครอบครัว ไพ่ 1 ใบก็ตอบคุณได้ครบทุกเรื่องดังที่กล่าวมาข้างต้นเช่นกันและในหลายๆ ครั้งที่ไพ่สามารถตอบคุณได้โดยให้ขอบเขตที่มากกว่าที่คุณถาม ซึ่งขึ้นอยู่กับไพ่ใบนั้นใกล้เคียงและ/หรือติดกับไพ่ใบไหน เพราะนั่นก็หมายถึงเราแปรความหมายได้กว้างขึ้นอีกและอีกหลาย ๆ ครั้งที่ไพ่ให้ความหมายในเรื่องของสิ่งที่มองไม่เห็น ซึ่งสิ่งนั้นบางครั้งก็พิสูจน์ได้ บางครั้งก็พิสูจน์ไม่ได้ แต่สัมผัสได้ ด้วยตัวคุณและตัวเรา (ยิปซี) ซึ่งจะเสนอกันต่อไป ... และหากคุณเป็นคนที่เชื่อในเรื่องสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ในเรื่องเทพ เทวดา ไพ่ยิปซีสามารถตอบคุณได้ด้วยว่า คุณนั้นมีเทพ เทวดา ประจำตัวและควรบูชาเทพองค์นั้นอย่างไร เพื่อให้ปกป้องและช่วยเหลือคุ้มครองตัวคุณ

Dont 4Get :

เกริ่นไว้ตรงนี้นิดนึง เทพ เทวดา ก็คือสิ่งศักดิ์สิทธิ์และต้องการการบูชา คนทุกคนมีเทพ เทวดา ประจำตัวมาตั้งแต่เกิด แต่หากคุณทำดีท่านก็จะอยู่กับคุณและก็จะช่วยเหลือคุณ ในเวลาที่เหมาะสม แต่หากว่าคุณไม่ทำดีท่านก็จะทำโทษคุณ หรือแม้กระทั่งไปจากคุณ ซึ่งก็เหมือนกับคนดีก็ต้องมีแต่คนอยากอยู่ใกล้ ๆ และถ้าคุณทำดีและคุณขอให้เทพช่วยคุณเองก็ต้องลงมือกระทำด้วยเพื่อให้เรื่องนั้นสำเร็จสมความปราถนาของคุณ....ฝันไกลเพียงได้ ก็ต้องลงมืทำให้สำเร็จ ด้วยตัวคุณเองแต่คุณจะได้กำลังใจที่ดีจากสิ่งที่อยู่รอบข้างคุณนั่นเอง.... -)^0^(-

การเริ่มต้นและคนชอบเสี่ยง The Fool The Beginning

คุณเคยเห็น หรือได้ สัมผัสกับหน้าไพ่แบบนี้ไหม ในภาษาอังกฤษ เขาเรียกหรืออ่านกันว่า เดอะฟูล ซึ่งให้ความหมายว่า มนุษย์เจ้าสำราญ นักผจญภัย อิสระ การเสี่ยง ความจริงใจ นักเดินทาง ใจดีจนดูเหมือนเจ้าชู้ คุณลองทบทวนตนเอง ลองคิดตามนะ ว่าคุณเป็น เดอะฟูลไหม ? หรือพร้อมหรือยังที่จะเริ่มต้น ณ วันนี้ เหมือนความหมายแห่งไพ่ เดอะฟูล จากตำราโบราณ พวกยิปซีจะทำนายทายทักคนที่มาขอรับคำนายและหยิบได้ไพ่ใบนี้ ในเรื่องที่แตกต่างกันออกไป หากคุณได้ไพ่ใบนี้ในตำแหน่งแรก** ผู้ทำนายจะต้องทำนายทายทักในเรื่องอุปนิสัยของคุณ ว่าคุณนะใจดี เล่าทุกเรื่องให้เพื่อนฟัง ไม่เคยปกปิดหรือปิดบังเรื่องใด ๆ เลย ข้อเสีย ** บางครั้งก็เป็นช่องว่างทำให้คนรอบข้างเอาเปรียบได้เช่นกัน มองในแง่ดีคือ ** เขาเรียกว่าคนใจกว้าง มีน้ำใจจนเหมือนดีไปหมด เสี่ยงที่จะคบหากับทุกคน มองในแง่ลย ** หากมากเกินไป ก็จะตีความได้ว่า หากคุณดีกับเพศเดียวกัน ก็ว่าคุณติดเพื่อน ดีกับเพศตรงข้ามก้เรียกว่าคุณจ้าชู้ เสี่ยงจนดูเหมือนการช่วยเหลือนั้นไร้ค่า อืม** อีกนิสัยที่ขาดไม่ได้ต้องบอกกล่าวกันก็คือ การชอบเที่ยวเดินทาง เที่ยวลักษณะผจญภัย มีเท่าไหร่เท่ากัน เที่ยวจนหมดกระเป๋า ให้ได้จนหมดกระเป๋าเช่นกัน ส่วนจะเที่ยวช่วงไหนบ้าง ก็ทั้งกลางคืน กลางวันนั่นแหละ ถ้ากลางคืนก็ตามผลับ ตามบาร์ หาคุณเจอได้ตลอด กลางวันก็ปีนเขา ผจญภัย ถึงเล่นกีฬา เสี่ยงภัย ไม่คิดชีวิต ขอให้ได้สะใจก็เกินพอ ส่วนด้านจิตใจ ลึก ๆ แล้วมีความกลัวและหวาดระแวง เหงาและเดียวดายอยู่เหมือนกัน โอเค เอาเป็นว่า นั่งทบทวนนะ ว่าตัวคุณเป็นแบบ เดอะฟูล ไหม แต่บอกได้เลยว่าความหมายในด้านลบ จะไม่เกิดขึ้น ถ้าคุณรู้ว่านั่นคือลบ และไม่ทำในสิ่งที่เรียกว่าด้านลบ ก็คือการรู้เท่าทันตัวตนของตัวเองนั่นแหละ..** ส่วนเรื่องที่ 2 ที่อยากจะพูดถึงก็คือ เหตุการณ์ทั้งปัจจุบัน และอนาคตที่จะเกิดขึ้น หากไพ่เดอะฟูล ที่คุณเลือกนั้น ตกอยู่ในตำแหน่ง ที่ 2 ก็จะตอบถึงสถานการณ์ ณ ปัจุบัน เหตุการณ์หรือว่าบุคคลประเภทไหนมีอิทธิพลกับคุณ ณ ตอนนี้ มาดูความหมายกันเลยนะ ** เรียกว่าปัจจุบันน่ะ คุณพร้อมที่จะเสี่ยง พร้อมที่จะเริ่มต้นใหม่ ไม่ว่าเรื่องงานหรือความรัก เสี่ยงแบบเอาไงก็เอากัน มีได้ก็ต้องมีเสีย เดินทางมันไปให้ไกล ทำอะไรก็ตามให้มันเต็มที่ สู้สุดแรงใส่ความจริงใจไปทั้งหมด แล้วไพ่ก็แนะนำคุณว่า ทำไปเถอะ คุณจะได้ออกมาจากห้องเล็ก ๆ ที่คุณอยู่ คุณจะได้เรียนรู้อะไรแปลกใหม่ แต่ในด้านที่ต้องเตือนกัน ก็ให้ย้อนกลับไปอ่านความหมายข้างต้น .. ก็คือว่าคุณควรเสี่ยงแบบ อย่าให้มีช่องว่างมากเกินไปนั่นเอง** เมื่อตกอยู่ในตำแหน่งที่พูดถึงเรื่องอนาคต คือตำแหน่งที่ 3 หรือ 6 ก็ให้ความหมายเช่นเดียวกันกับตำแหน่งที่ 2 ในเรื่องเหตุการณ์ปัจจุบัน แต่ อิทธิพลจะลดน้อยลง เนื่องจากไม่ใช่เหตุการณ์ที่อยู่ใกล้ตัว เป็นเหตุการณ์ที่ไกลออกไปแต่กำลังจะเกิดขึ้น แต่ความหมายก็คือ ต้องได้เริ่มได้ทำ และมีความพร้อมที่จะเริ่มด้วยใจเกิน 100 แต่ เป็นเหตุการณ์ที่กำลังจะเกิด ไม่ได้อยู่ ณ เหตุการณ์ ในวัน 2 วันนี้ ซึ่งอย่างน้อย ในตำแหน่งที่ 3 ก็ 15 - 30 วัน ส่วนตำแหน่งที่ 6 คือ 30 - 60 วัน ในเรื่องของไพ่ เดอะฟูล ที่ปรากฎขึ้นนั้น ยังได้ให้ความหมายถึงเรื่อง การเดินทางท่องเที่ยว อย่างสบาย ๆ ไร้กังวล ร่วมถึงเดินทางไปเที่ยวยังต่างประเทศได้อย่างสนุกสนานร่าเริง ไม่มีทุกข์ใดๆ ไม่ต้องเหนื่อย ช่างเป็นไพ่ที่ให้ความสุขกับคนที่ต้องการเดินทางสะจริง ๆ เพราะเมื่อไพ่ใบนี้ปรากฏขึ้น เราใช้สำหรับเป็นคำตอบกับคำถามเรื่องการเดินทางได้อย่างชัดเจนว่า ใช่ ได้ไปแน่ ๆ อย่างสบาย ๆ ง่าย ๆ ชิล ๆ ... อิอิ แต่เตือนนิดนึงหากไพ่ใบนี้ขึ้นในตำแหน่งของคนที่เราถามถึงตำแหน่งคู่รัก ** นั่นก็แปลได้ว่า คน ๆ นั้นก็ดีกับทุก ๆ คนนั่นแหละ ดีจนเหมือนเจ้าชู้ จริงใจไปหมดกับทุก ๆ คน แล้วยังเป็นคนที่ไม่หยุดนิ่ง ไม่หยุดอยู่กับที่ พร้อมที่จะลองคบใครใหม่ ๆ ได้ตลอดเวลา เพราะ ความชอบเสี่ยงของคนๆนี้ และ ในความหมายสรุปก็คือ ยังไม่หยุดอยู่ที่คุณนั่นเอง ...

English VerSion ...

you have evered to see , or , get , touch with infront is a card like this ? , in English , he calls or , read that , , abundantly rise , which , give the meaning that , , god human is happy , adventurer , The free , risk , sincerity , traveler , poor kindhearted seem lady's man , you try to review oneself , try think follow please , that , you are , abundantly rise ? , ? , or , fully ? will have initial to , at , today , be like card meaning , abundantly rise , from ancient textbook , the gang will C foretell source person begs for to promise Mr. and can pick this card , in case different of go out , if , you have this card in first position ** , the prophet will must foretell in about [ story ] innate your character , that , you please kindhearted , tell every about [ story ] give a friend listens , never conceal or , suppress about [ story ] any , ++ , ++ , disadvantages , ** , sometimes the opening makes a person around can take advantage also , stare in the sense good of be , ** , he calls that , a person is generous , until generous be like good go to be finished , risk to associate with with everybody , stare in the sense of , ** , if , too much , as a result , can construe that , , if , you good with same gender , as a result , that , you stick a friend , good with the opposite sex calls that , you are yes , adulterer , risk poor seem that worthless assistance , ** , again the habit that is necessary must notify is , liking to tours to travel , tour the character takes adventure , have limitless , then until lose all one's money , can poorly lose all one's money also , the part will tour which period ? , as a result , both of night , the daytime that particle used at the end of a statement to emphasize it , if , night no matter , follow a bar , seek you can meet through , daytime , climb he , take adventure , arrive at play the sport , risk , be unexpected the life , can request satisfy , be excessive , side mind part , depth , ++ , already have the scare and is suspicious , lonely and lonesome stay alike , OK. , conclude , sit review please , that , you are like [ model ] , , abundantly rise , is , but , tell immediately [ Ok ] that , the meaning in the sense of ( minus,erase ) , do not happen , if , you know that are ( minus,erase ) , and don't do for what , call that , a side (s minus,erase ) , be seeeing through someone's trick body of oneself that particle used at the end of a statement to emphasize it ..** , 2 with regard to that want to mention be , both of events now , and the future will to happen , if , a card abundantly rise , at you choose that , fall stay in a position , that 2 , will answer arrive at the situation , at , contain , the events is or , kind which person is influential with you , at , now , come to see the meaning please , ** , call that , now please , you will to fully risk , to fully restart , neither about [ story ] the work or , love , risk like [ model ] to take ? , take , can have , must have ( lose/go dead ) , travel it goes to farly , do the whatever gives it with full speed ahead , fight do with all one's strength malign sincere go to all , already a card , advise you that , , do Let's go. , you will have come out from tiny room , ++ , at you (stay) [doing that action] , what are you will have learnt ? strange , but , in the sense of that must warn , as a result , give turn back read the meaning above , .. , be that , you should risk like [ model ] , , don't have the opening too there much ** , when , fall stay in the bearings mentions about [ story ] the future , be 3 bearingses or , 6 , give the meaning also with 2 bearingses s in about [ story ] the events now , but , , the influence will decrease , because of , be not location events near , be far events goes out but , happen , but , the meaning is , must get can begin do , and have the readiness will to begin with exceed love 100 but , , be the events will be thatting is born , no (stay) [doing that action] , at , events , in day 2 today , which , at least , in 3 bearingses , 15 - 30 day , 6 bearings parts are 30 - 60 day , in about [ story ] of a card , abundantly rise , that appear go up that , still get give the meaning about , the travel travels , is comfortablely , ++ , lack of worry , share arrive at travel to tour still the foreign countries has cheerful merrily , have no be distressful anything , must not exhausted , a technician is a card that gives the happiness and a person who want to travel TRUE , ++ , because , when , this card appears to go up , we have used for are the answer and a question about [ story ] the travel clearly that , , yes , get go to sure , ++ , is comfortablely , ++ , easiness , ++ , , ++ , ... , , but , warn small if , this card goes up in a position of a person who us asks for lover position , ** , that , can translate that , , person , ++ , that or with every , ++ , a person that particle used at the end of a statement to emphasize it , until good be like lady's man , sincere go to be finished with every , ++ , person , already still a person still persistently , persistently still , fully to try associate with ? new , ++ , get all the time , because , , the liking risks of this person , and , in the meaning summarizes to are , still persistently at you there , ... ,